ขอสดุดี
เหล่านักรบ เบเร่ย์เขียว



หน่วยปฏิบัติพิเศษ "บูรพา491"

Negotiator

ถวายความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์

Riot control

รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

ครูฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

Gallery รวมภาพ

ผลการปฏิบัติตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ


ทำเนียบผู้บังคับบัญชา

- บทความ"หอมพ่อ"
พ.ต.ต.ปริญญา ประเสริฐ วีรกรรมอดีตหัวหน้า นปพ.เขต2 เขาหินซ้อน แปดริ้ว
- ประวัติหมวกทรงอ่อน เบเร่ย
- ปืนยาวตระกูล M16
- หน่วยรบที่ทรงประสิทธิภาพ


ข้อมูลที่น่ารู้

- การก่อการร้ายคืออะไร
- การก่อความไม่สงบ
- อาชญากรรมข้ามชาติ
- เมื่อมีคนร้ายจับตัวประกัน
  ทำอย่างไร

- พบคนกำลังจะฆ่าตัวตาย
  ทำอย่างไร


เทคนิคการเอาตัวรอด

- การยิงปืนพกขั้นพื้นฐาน
- ศิลปการป้องกันตัวสำหรับ
  เยาวชน สตรี


เว็บไซท์หน่วยงาน

- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- ตำรวจภูธรภาค 2


สถิติการเข้าชมเว็บไซท

Free Hit Couner

Free Counter

 

รถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษ
C . A . T .
C o u n t e r   A t t a c k   T e a m

กล่าวนำ
                งานรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษ หรือ รถ C.A.T. : Counter Attack Team นั้นเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งในการถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะที่ทรงเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งภารกิจตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 กำหนดให้กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  “ดำเนินการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจท้องที่ในการถวายอารักขาและรักษาความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญในคณะรัฐบาลและต่างประเทศและสถานที่สำคัญของทางราชการ” จะเห็นได้ว่าภารกิจดังกล่าวมีความสำคัญยิ่ง โดยต้องพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความพร้อม มีระเบียบวินัย มีความเชี่ยวชาญและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่อเหตุการณ์ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และต้องมีการฝึกทบทวนยุทธวิธีทั้งหมดและตรวจสอบความพร้อมของบุคคล อุปกรณ์ ยานพาหนะ เพื่อให้การถวายความปลอดภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น

หน้าที่ของรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษ  ถวายความปลอดภัยในขบวนเสด็จ

  1. เฝ้าระวัง 360 องศา ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง
  2. ระวังการลอบโจมตี
  3. ระวังการแทรกและแซงขบวน
  4. รายงานความเรียบร้อยท้ายขบวน

คุณสมบัติพื้นฐานของรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษ

  1. เป็นรถยนต์ที่ประสิทธิภาพสูงทั้งกำลังเครื่องยนต์และตัวถังรถ
  2. จำนวนที่นั่ง 4-8 ที่นั่ง (ตามชุดปฏิบัติการ)
  3. ติดตั้งสัญญาณไฟแดงและวิทยุสื่อสาร (ควรจะมี 2 เครื่องเป็นอย่างน้อย)
  4. มีอุปกรณ์ในการกู้ภัยเบื้องต้นและอุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ
  5. กำลังพลที่พร้อมในการปฏิบัติงานทั้งกายและใจ รวมทั้งอาวุธที่มีประสิทธิภาพ

TOP กลับด้านบน

ระเบียบกรมราชองครักษ์ พ.ศ.2546

  1. ข้อ 9 การจัดขบวนรถยนต์ถวายความปลอดภัย ตามข้อ 4 ถึงข้อ 7 หรือกรณีอื่นสมุหราชองครักษ์หรือผู้แทนอาจสั่งการอย่างอื่นตามเหตุผลและความจำเป็น เป็นครั้งคราว
  2. ข้อ 10 การจัดข่ายวิทยุและการออกคำแนะนำการปฏิบัติการสื่อสารให้อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยแยกรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ประจำกรมราชองครักษ์
  3. ข้อ 11 การนำรถยนต์เข้าหรือออกนอกขบวน เมื่อได้รับอนุญาตจากสมุหราชองครักษ์หรือผู้แทน ให้หัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำหรือผู้แทนเป็นผู้รับผิดชอบในการประสานการปฏิบัติและแจ้งผลการปฏิบัติผ่านศูนย์วิทยุสื่อสาร ตามข้อ 10
  4. ข้อ 12 การประสานงานทางวิทยุ รถยนต์ในขบวนเดียวกันต้องใช้ความถี่วิทยุช่องเดียวกันเพื่อกระชับและรวดเร็วในการติดต่อประสานงานตลอดจนการสั่งการ
  5. ข้อ 13 กรณีฝนตก ถนนลื่น ให้งดใช้รถจักรยานยนต์
  6. ข้อ 14 เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในขบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำกรมราชองครักษ์ ว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกับขบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์

แนวทางสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย (Security Post Guidelines)

                หลักสากลในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและสถานที่สำคัญ และนำไปประยุกต์ใช้ในภารกิจอื่นได้ดี ดังนี้

  1. ใครคือบุคคลสำคัญที่ท่านจะต้องให้การอารักขา
  2. สถานที่ใดที่บุคคลสำคัญจะเดินทางไป
  3. เวลาอะไรที่เดินทางจากไป
  4. บริเวณที่ท่านได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ อยู่ที่ไหน
  5. ใครคือผู้บังคับบัญชาของท่าน
  6. เวลาอะไรที่ท่านต้องเข้ารับหน้าที่
  7. เวลาอะไรที่ท่านได้รับอนุญาตให้ออกจากหน้าที่
  8. บัตรแสดงตัวชนิดใดที่จะนำมาใช้
  9. จะเลือกใช้ยานพาหนะชนิดใด
  10. เครื่องมือสื่อสารชนิดใดที่พอจะหามาใช้ได้
  11. การจัดเตรียมสิ่งบรรเทาทุกข์ในเรื่องห้องน้ำ น้ำดื่มและอาหาร
  12. การแต่งกายสะอาดเรียบร้อย
  13. อย่ารับประทานอาหารหรือดื่ม ฯลฯ ในขณะปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา
  14. อย่าเปิดเผยอาวุธให้ผู้อื่นเห็น
  15. จงยืนขึ้นถ้าบริเวณที่ท่านรักษาการณ์อยู่นั้นมีผู้อื่นอยู่ด้วย หรือมีคนเดืนเข้ามาในบริเวณที่ท่านรักษาการณ์
  16. อย่าละทิ้งหน้าที่จากบริเวณที่ได้รับมอบหมาย เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
  17. ดูแลรักษาบริเวณที่รับผิดชอบไม่ให้มีสิ่งสกปรกรกรุงรัง
  18. รู้จักการใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสาร
  19. รู้จักใช้อาวุธชนิดต่าง ๆ
  20. รู้จักใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือฉุกเฉิน
  21. สามารถบอกได้ว่าใครบ้างเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และ/หรือรู้จักเครื่องหมายบอกฝ่าย
  22. รู้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอื่น ๆ ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับบริเวณที่ท่านรับผิดชอบอยู่ที่ไหน
  23. เข้าใจรหัสรับที่ใช้ทางวิทยุ
  24. รู้ถึงภารกิจที่ได้เตรียมไว้ต่อเนื่องกับบริเวณที่ท่านรับผิดชอบ
  25. ถ้ามีการเปลี่ยนเวรยาม จะต้องอธิบายสรุปเหตุการณ์ในหน้าที่รับผิดชอบโดยละเอียดให้เจ้าหน้าที่ที่มาสับเปลี่ยนหน้าที่ได้ทราบ

TOP กลับด้านบน

การฝึก
                แนวทางการฝึกของเจ้าหน้าที่ประจำรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษนั้นที่สำคัญและต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ได้แก่

                1. การฝึกเทคนิคการขับรถทางยุทธวิธี

    • การจับพวงมาลัยรถ
    • การหมุนพวงมาลัยรถ ( Push and Pull )
    • การขับรถ Slalom ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง
    • การถอยหลังรูปตัว S
    • การเบรกฉุกเฉิน
    • การหลบหลีกสิ่งกีดขวาง Y L
    • การเข้าโค้งด้วยความเร็ว
    • การบังคับรถเมื่อถนนลื่น
    • การกลับรถแบบฉุกเฉิน U – turn และ J - turn
    • การชนรถหรือสิ่งกีดขวางเพื่อให้เปิดทางแก่ขบวนรถ
    • การไล่ติดตาม
    • การป้องกันรถแทรกขบวน
    • สถานีรวม

                2. การใช้อาวุธ

    • ทบทวนการฝึกตามตารางของชุด SWAT

                3. ยุทธวิธีการรักษาความปลอดภัยบุคคลขบวนรถยนต์

    • ขบวนรถถูกซุ่มโจมตีทางซ้าย ขบวนรถสามารถเคลื่อนที่ไปได้
    • ขบวนรถถูกซุ่มโจมตีทางขวา ขบวนรถสามารถเคลื่อนที่ไปได้
    • ขบวนรถถูกซุ่มโจมตีทางซ้าย รถ VIP , รถ รปภ.ประจำตัวไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้
    • ขบวนรถถูกซุ่มโจมตีทางขวา รถ VIP , รถ รปภ.ประจำตัวไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้
    • ฯลฯ

    TOP กลับด้านบน

อาวุธและอุปกรณ์ประจำรถอาวุธ

                ตามหลักสากล รถอาวุธและอุปกรณ์ควรมีอาวุธและอุปกรณ์เพื่อใช้ในการตอบโต้แก้ไขเหตุต่าง ๆ ดังนี้

  1. อาวุธปืนกลมือที่ใช้กระสุนขนาด 5.56 (พื้นที่ป่า) หรือ 9 มม.(ในเมือง) พานท้ายยืดหดเพื่อความคล่องตัวขณะอยู่ในรถยนต์
  2. อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกขนาด 9 มม. หรือ 11 มม.
  3. เสื้อเกราะ
  4. หมวกกันกระสุน
  5. แว่นตากันสะเก็ด
  6. ถุงมือกันความร้อนที่มีขนาดกระชับ
  7. สนับศอก สนับเข่า
  8. วิทยุสื่อสารพร้อมหูฟัง ขนาด 5 – 7 วัตต์
  9. กล้องส่องทางไกล
  10. เครื่องยิงลูกระเบิด M79
  11. กระสุนแก๊สน้ำตา
  12. กระสุนยาง
  13. ชะแลงงัดประตู
  14. โล่กันกระสุน
  15. ไฟฉายแรงสูง
  16. กล้องมองกลางคืน(ติดกับหมวกกันกระสุนได้
  17. อุปกรณ์โรยตัวพร้อมเชือกโรยตัว (สนับสนุนการช่วยเหลือทางอากาศ)
  18. ฯลฯ

               
ยานพาหนะ

  • ควรเป็นยานพาหนะที่มีกำลังสูง พร้อมระบบ 4W (พื้นที่ป่า)
  • บรรทุกผู้โดยสารได้ 4-7 คน
  • มีประตู 5 ประตู
  • มีไซเรน
  • มีวิทยุสื่อสารแรงสูงประจำรถ
  • มีระบบนำร่อง GPS
  • มีกล้อง CCTV บันทึกภาพเคลื่อนไหวทั้ง 4 ทิศทาง (หน้า หลัง ซ้าย ขวา)
  • ระบบรถไม่ซับซ้อนมาก
  • บำรุงดูแลรักษาง่าย
  • กระจกทึบ (สำหรับการซ่อนพรางและการมองเห็นจากฝ่ายตรงข้าม)

TOP กลับด้านบน



อ่านข่าวด่วนข่าวเด่นจาก RSS thai

 
 
   


TOP

กลับหน้าแรก


   
สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามผู้ใด ทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียนแบบ เผยแพร่ข้อความ รูปภาพหรือส่วนหนึ่งส่วนใด อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากหน่วยงาน แต่หากผู้ใดต้องการใช้ข้อมูลหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือข้อสงสัยใด ๆ โปรดติดต่อเว็บมาสเตอร์ suriya_pho@yahoo.com
ขอบคุณครับ