การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ
ของ
กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ
ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2

สารบัญลิงค์

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.1 ระดับความสำเร็จของการพัฒนาองค์กรแบบองค์รวมมุ่งเน้น Output, Outcome และ Impact โดยมีคู่เทียบเคียง ( Benchmarking )

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2 ระดับความสำเร็จของการวางแผนปรับปรุงองค์กรสู่การจัดการผลกระทบทางลบต่อองค์กรและสังคม

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.3 ระดับความสำเร็จของการสร้างความสัมพันธ์กับผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร

ยุทธศาสตร์ : การบริหารจัดการที่ดี

ประเด็นการประเมินผล : ตัวชี้วัดที่ 3.1 : ระดับความสำเร็จของร้อยละเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักในการบรรลุเป้าหมายตามแผนปฏิบัติราชการ/ภารกิจหลัก

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22 : ระดับความสำเร็จของการบริหารจัดการองค์กรสู่มาตรฐานสากล

 ตัวชี้วัดที่  3.1.22.1 : ระดับความสำเร็จของการพัฒนาองค์กรแบบองค์รวมมุ่งเน้น  Output ,Outcome  และ Impact โดยมีคู่เทียบเคียง  ( Benchmarking ) 

ผลการศึกษาและกำหนดผลผลิตและบริการหลัก (Output หลัก)
ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
วันอังคารที่ 28 เม.ย.2552

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.1 : ระดับความสำเร็จของการพัฒนาองค์กรแบบองค์รวมมุ่งเน้น Output , Outcome และ Impact โดยีคู่เทียบเคียง (Benchmarking)

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

ขอบเขตในการศึกษาเพื่อกำหนดผลผลิตและบริการหลัก (Outputหลัก)
            1. ใช้ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 ที่กำหนดอำนาจและหน้าที่ไว้ให้แต่ละหน่วยงานในสังกัด ตร. ไว้อย่างชัดเจน เป็นพันธกิจที่ต้องดำเนินการนำมาใช้พิจารณา
                2. แบ่งแยกส่วนงานที่เกี่ยวข้องออกมาเป็นโครงสร้างของ กก.ปพ.ฯ เพื่อให้รู้บทบาทหน้าที่ของแต่ละส่วนที่จะต้องดำเนินการ
                3. กำหนดหน้าที่และการดำเนินการแต่ละส่วนงานไว้เพื่อให้สามารถติดตาม พัฒนาปรับปรุง และเพื่อให้รู้ได้ว่าใครจะเป็นผู้รับบริการบ้าง รวมทั้งผลกระทบทางบวกและทางลบในระยะสั้นและระยะยาวได้
               
ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548
                ได้กำหนดอำนาจและหน้าที่ในส่วนของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ไว้ดังนี้
                มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการอำนวยการควบคุมดูแลและปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดอาญารวมทั้งการสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจท้องที่และหน่วยอื่น ๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดอาญาทั้งปวง การรักษาความปลอดภัยบุคคลและสถานที่ ป้องกันและปราบปรามการก่อการจลาจลและต่อต้านการก่อการร้ายในเมืองรวมทั้งการฝึกทางด้านยุทธวิธีให้กับตำรวจท้องที่หรือหน่วยงานอื่น ๆ โดยมีเขตอำนาจรับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค และเขตพื้นที่อื่น ๆ ตามแต่ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจจะสั่งการโดยปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้

โครงสร้างภายในกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ ตามโครงสร้าง ตร.
สรุปได้ดังนี้

ผลสรุปของคณะทำงาน
ผลผลิตและบริการหลัก (Output หลัก)
ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  มีดังนี้


1. งานอำนวยการและธุรการ กก.ปพ.ศสส.ภ.2
                            - ดำเนินการทางด้านงานธุรการ การประสานงานกับหน่วยเหนือ หน่วยข้างเคียง หน่วยงานนอกสังกัด ตร. ทั้งภาครัฐและเอกชน
                                - การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ ที่จำเป็นแก่ประชาชน  หน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน
                                    เช่น ภัยการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ บุคคลมีหมายจับการก่อความไม่สงบ การสังเกตและการปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิด การป้องกันตัวสำหรับสตรีและเยาวชน ฯ
                                - การรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ เช่น ข้อมูลบุคคลต้องสงสัยของอาชญากรข้ามชาติ บุคคลก่อความไม่สงบ คนร้ายมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล ฯ แล้วจัดทำเป็นเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
                                - การดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือการร้องเรียนจากประชาชน การรายงานผลการปฏิบัติ และการเก็บรวบรวมข้อมูลของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
2. งานเจรจาต่อรอง
                                - โดยการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองรองรับ กรณี คนร้ายจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย กลุ่มชุมนุมประท้วง เพื่อสนับสนับตำรวจพื้นที่ในการปฏิบัติและเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
3. งานทางด้านยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
                - งานด้านการถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
                                โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อเตรียมพร้อมในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 หรือตามที่ ตร.มอบหมาย ทั้งที่มีหมายกำหนดการหรือเป็นการส่วนพระองค์
        - งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
                        จัดเจ้าหน้าที่ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ (SWAT) ที่ได้รับการฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 บก.สอ.บช.ตชด. มีหน้าที่สนับสนุนตำรวจท้องที่ทางด้านยุทธวิธีในการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ การเสนอแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุวิกฤติ การประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางยุทธวิธี              
        - งานควบคุมฝูงชน
                        จัดเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดอาวุธพิเศษ ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ48) เพื่อสนับสนุนตำรวจท้องที่ กองร้อย ปจ.ในสังกัด ภ.2 เมื่อได้รับการร้องขอ
        - งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
                        จัดครูฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจ โดยจัดหลักสูตรและเตรียมแผนการฝึกตามระดับความสำคัญของยุทธวิธีให้ตามความเหมาะสม
                                        -ฝึกอบรมทบทวนภายในสังกัด
                                                         กก.ปพ.ฯ , ศสส.ภ.2 , ตำรวจท้องที่ , ชุดปฏิบัติการต่างๆ ฯ
                                        -ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานภาครัฐนอกสังกัด ตร.
                                        -ฝึกอบรมให้แก่เอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป
                - งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่
                                -จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ พยานคดีสำคัญ ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ฯ
                                -จัดเจ้าหน้าที่สิบเวรยามรักษาความปลอดภัย กก.ปพ.ฯ , บ้านพักข้าราชการของผู้บังคับบัญชา
                                -รักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานมหกรรม เมื่อได้รับการร้องขอ

การจัดชุดปฏิบัติงานตามโครงสร้าง กก.ปพ.ศสส.ภ.2
สรุปได้ดังนี้

                 
                                                ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ  โพธิ์ทองนาค ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
                                                                                        
                                                               

ผลการประชุมสัมมนาคณะทำงาน
กำหนดผลผลิตและบริการหลัก ผลลัพธ์และผลกระทบทางบวกและทางลบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
วันอังคารที่ 28 เม.ย.2552

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.1 : ระดับความสำเร็จของการพัฒนาองค์กรแบบองค์รวมมุ่งเน้น Output , Outcome และ Impact โดยีคู่เทียบเคียง (Benchmarking)

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

ขอบเขตในการศึกษา
                1. ใช้ข้อมูลจากผลการศึกษาของคณะทำงานขั้นที่ 1 ข้อ 1.1 นำมาใช้พิจารณา
                2. วิเคราะห์ผลลัพธ์ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้น (1 ปี) และระยะยาว (3 ปี)
                3. แยกการวิเคราะห์เป็นส่วนงานเพื่อง่ายต่อการพัฒนา วางแผน และประเมินผลการปฏิบัติ

ผลการประชุมสัมนนาผลลัพทธ์ และผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบในระยะสั้น และระยะยาว

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

1.

งานอำนวยการและธุรการ

  1. ดำเนินการทางด้านงานธุรการ การประสานงานกับหน่วยเหนือ หน่วยข้างเคียง หน่วยงานนอกสังกัด ตร. ทั้งภาครัฐและเอกชน
  2. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ ที่จำเป็นแก่ประชาชน  หน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน            เช่น ภัยการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ บุคคลมีหมายจับการก่อความไม่สงบ การสังเกตและการปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิด การป้องกันตัวสำหรับสตรีและเยาวชน ฯ
  3. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ เช่น ข้อมูลบุคคลต้องสงสัยของอาชญากรข้ามชาติ บุคคลก่อความไม่สงบ คนร้ายมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล ฯ แล้วจัดทำเป็นเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
  4. ดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือการร้องเรียนจากประชาชน การรายงานผลการปฏิบัติ และการเก็บรวบรวมข้อมูลของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีการประสานงานที่ดีภายในหน่วยงาน ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีระบบมากขึ้น
            2. หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน เริ่มรู้จักและมีความเข้าใจในภารกิจของหน่วยมากขึ้น
                3. ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ได้รับข้อมูล ความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้องของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ
                4. มีช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูล เบาะแส เกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรง การจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย ฯ
ทางลบ
                1. จำนวนเจ้าหน้าที่ธุรการมีน้อย หากมีปริมาณมากซึ่งจากบริการหลักมีข้อปฏิบัติมาก อาจทำให้เกิดการล่าช้าในงานบางอย่างได้
                2. ความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างมาก       โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร อินเตอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์
                3. การเปิดช่องทางการแจ้งเบาะแสอาจเป็นช่องในการกลั่นแกล้งของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแต่อีกฝ่ายหนึ่งได้

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. งานอำนวยการและธุรการมีระบบ การจัดเก็บข้อมูล มีการประสานงานที่ดีภายในและภายนอกหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน
                2. หน่วยงานภายในและภายนอกสังกัด หน่วยงานข้างเคียง ภาครัฐและเอกชน ให้ความเชื่อถือและรับทราบภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
                3. การให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่องานเกี่ยวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีช่องทางให้ข่าวสาร ร่วมมือกับหน่วยงานซึ่งเป็นงานเฉพาะทางได้เป็นอย่างดี
ทางลบ
                1. ข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ อาวุธร้ายแรง เมื่อประชาสัมพันธ์ออกไป อาจทำให้เกิดการตื่นตะหนกได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
                2. กลุ่มชุมนุมประท้วงทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่บางขั้นตอนโดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาชั้นสูงและอาจนำไปใช้ในการต่อรองกดดันฝ่ายบริหาร
                3. คนร้าย หรือผู้ก่อไม่สงบ หรือผู้ก่อการร้าย อาจได้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือกับเจ้าหน้าที่ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ(SWAT) และอาจทำการต่อต้านในการเข้าแก้ไขสถานการณ์ หรือการจับกุมได้

 

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

2.

งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อเตรียมพร้อมในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 หรือตามที่ ตร.มอบหมาย ทั้งที่มีหมายกำหนดการหรือเป็นการส่วนพระองค์
  2. ร่วมตรวจพื้นที่รับเสด็จและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในขบวนเสด็จรวมทั้งตำรวจพื้นที่ หน่วยราชการอื่น ๆ ที่ร่วมปฏิบัติ

-หน่วยงานในสังกัด ตร.และ ภ.2
-กรมสมุหราชองครักษ์
-ฝ่ายทหาร
-สำนักพระราชวัง
-หน่วยงานอื่นๆที่ร่วมปฏิบัติในการ ถปภ.

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีความพร้อมในการปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
            2. มีการประสานการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการถวายความปลอดภัย
ทางลบ
                1. จำนวนเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์มีน้อยและมีภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือตัวประกันและสนับสนุนพื้นที่ทางด้านยุทธวิธีด้วย หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในช่วงที่กำลังปฏิบัติภารกิจรับเสด็จอยู่ ในการช่วยเหลือตัวประกันจะมีเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ไม่เพียงพอ ซึ่งหัวหน้าชุดต้องปฏิบัติภารกิจ ถปภ.ด้วยตนเองทุกครั้ง
                2. หากมีขบวนเสด็จหลายพระองค์พร้อมๆกันในพื้นที่ กำลังจะไม่เพียงพอ รวมทั้งยานพาหนะที่ได้รับจ่ายแจกจาก นรป.ที่ใช้การ ถปภ.ของ กก.ปพ.ฯ มีเพียง 2 คัน อาจทำให้เกิดการล่าช้าในการถวายปลอดภัยเพราะต้องนำรถที่อยู่ในส่วนมาใช้ในการรับเสด็จ
               
ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจและให้ความสำคัญ เพิ่มอัตรากำลังพลชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษหรือขออนุมัติจัดตั้งเจ้าหน้าที่ไว้เป็นอีกแผนกเป็นการเฉพาะ
                2. หน่วยงานต่างๆที่ร่วมปฏิบัติ มีความรู้ความเข้าใจในภารกิจของรถอาวุธฯ และร่วมประสานการปฏิบัติในกรณีหรือเมื่อมีเหตุได้เป็นอย่างดี ไม่สับสน
                3. ได้รับงบประมาณในการจัดสรรอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัวในการต่อต้านการถูกซุ่มโจมตี ได้รับยานพาหนะที่มีสมรรถนะสูงประจำชุดรถอาวุธไว้โดยเฉพาะ
                4. ได้รับงบประมาณในการฝึกซ้อมการปฏิบัติต่างๆที่ใช้การถวายความปลอดภัยทั้งหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชุด
ทางลบ
                1. ความไม่เข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติในขบวนเสด็จอาจทำให้เกิดเหตุร้ายได้
                2. การประสานงานภายในขบวนและท้องที่ใช้ข่ายการสื่อสารคนละช่องทางในการติดต่ออาจทำให้เกิดปัญหาในการแจ้งเหตุ หรือข่าวสารใด
                3. ภารกิจทุกครั้งส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น อาจเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ในขบวน และส่วนอื่น ๆ ขาดความกระตือรือล้นในการระมัดระวังเหตุ และอาจไม่เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้แก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุ

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

3.

งานเจรจาต่อรอง

จัดเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองรองรับ กรณี คนร้ายจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย กลุ่มชุมนุมประท้วง เพื่อสนับสนับตำรวจพื้นที่ในการปฏิบัติและเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีเจ้าหน้าที่ชุดเจรจารองรับในเหตุเฉพาะ
                กรณี        - การจับตัวประกัน ฯ เพื่อประสานข้อมูลข้อเรียกร้อง จำนวนตัวประกัน คนร้าย อาคารสถานที่ ตำแหน่งที่อยู่ของตัวประกัน คนร้าย ลักษณะโครงสร้างอาคาร ให้แก่ชุดการข่าว และชุดช่วยเหลือตัวประกัน ได้เป็นอย่างดี
                                - แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง เพื่อให้ได้รับข้อมูลข้อเรียกร้องต่าง ๆ เพื่อเสนอชุดบริหารเหตุการณ์นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
            2. ผู้ที่ทำงานหรือที่ร่วมในสถานการณ์นั้น เช่น ตำรวจท้องที่ ตำรวจอาสา ประชาชน กู้ภัย มูลนิธิ รู้บทบาทของตัวเอง ไม่ดำเนินการในส่วนที่เป็นหน้าที่ของทางราชการ ซึ่งจะไม่ทำให้สถานการณ์เลยร้ายลงไปอีก
ทางลบ
                1. ปัจจุบันยังไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง เนื่องจากกำลังพลไม่เพียงพอ เมื่อได้รับการร้องขอทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติในส่วนชุดเจรจาได้
                2. เจ้าหน้าที่ต้องมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงในขั้นตอนการเจรจา ข้อมูล การตัดสินใจ การปฏิบัติของส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะชุดช่วยเหลือตัวประกันได้เป็นอย่างดี

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. หน่วยมีเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรอง ทำให้ประสานการปฏิบัติในทุกส่วนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีความรู้ความชำนาญในการต่อรอง การข่าว การลวงเอาข้อมูล การสังเกต เส้นวิกฤตที่ต้องดำเนินการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกัน
                2. มีการทำงานอย่างเป็นระบบ การกันสถานที่เกิดเหตุ และผู้ไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้
ทางลบ
                1. การทำงานของชุดเจรจาเมื่อทำงานสำเร็จบ่อยครั้งอาจทำให้มองเห็นเป็นวีรบุรุษ ทำให้เกิดพฤติการณ์อยากเป็นวีรบุรุษ เข้าไปเป็นผู้เจรจาเสียเอง ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นได้   

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

4.

งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ที่ได้รับการฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 จาก บก.สอ.บช.ตชด.

มีหน้าที่สนับสนุนตำรวจท้องที่ทางด้านยุทธวิธีในการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ การวางแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุวิกฤติ การประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางยุทธวิธี

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. หน่วยงานมีชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ(SWAT) รองรับเหตุซึ่งต้องเป็นชุดเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกมาโดยเฉพาะทางด้านยุทธวิธีการปฏิบัติการพิเศษ ทั้งการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย จู่โจมล้อมจับคดีสำคัญและสามารถเรียกกำลังได้อย่างรวดเร็ว
            2. เป็นชุดรองรับการปฏิบัติการตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นชุดสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาเหตุวิกฤติ
                3. เป็นหน่วยสนับสนุนชุดปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน สายตรวจ ท้องที่ ฯ ทางด้านยุทธวิธีพิเศษ เมื่อประสบกับคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง หรือมีพฤติการณ์ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
                4. สามารถทำงานร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 อรินทราช 26 เช่น การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการวางแผนทางยุทธวิธี กรณีการก่อการร้ายสากล แผนผังโครงสร้างอาคาร เส้นทาง ตัวประกัน คนร้าย
ทางลบ
                1. ความไม่เข้าใจของประชาชนที่เห็นว่าชุด SWAT เป็นชุดที่มีอาวุธร้ายแรงเกินความจำเป็น
                2. หน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ทราบข้อมูลของการจัดตั้งชุด SWAT ขึ้นมาเพื่อรองรับเหตุวิกฤติตามกฎหมาย และผู้บังคับบัญชาไม่กล้าใช้ในการดำเนินกลยุทธ์
                3. ในคดีที่มีความละเอียดอ่อนต่อกลุ่มม๊อบกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะเอาไปเป็นข้อโจมตีหน่วยงานหรือรัฐบาล 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ (SWAT) เป็นเครื่องมือของผู้บริหารเหตุการณ์ในการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันการก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย เมื่อเกิดเหตุที่ต้องใช้กำลังในการเข้าแก้ไขในทันที
                2. สามารถเสนอแนะแนวทาง แผนในการปฏิบัติในการช่วยเหลือตัวประกัน รวมทั้งขั้นตอนต่าง ๆ ในส่วนของชุดโจมตีและพลซุ่มยิง รวมทั้งแผนการรับตัวประกัน แผนการส่งคนร้าย
                3. ตำรวจท้องที่สามารถขอรับการสนับสนุนทางด้านยุทธวิธีเมื่อต้องประสบกับคนร้ายคดีสำคัญ อาวุธร้ายแรง หรือมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
                4. ตัวประกันปลอดภัย
                5. ได้รับการสนับสนุนในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ การฝึกหลักสูตรต่าง ๆ เพิ่มเติม
ทางลบ
                1. ประชาชนไม่เข้าใจเช่นการว่าเป็นการปฏิบัติการคล้ายทหารมากเกินไป
                2. หน่วยมีความจำเป็นต้องได้รับกำลังพลเพิ่ม
                3. ปัจจุบันอาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ มีสภาพเก่าไม่ทันสมัย อาจเกิดการเสียหายในการช่วยเหลือตัวประกันได้

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

5.

งานควบคุมฝูงชน

  1. จัดเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดอาวุธพิเศษ ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ48)
    1. เพื่อสนับสนุนตำรวจท้องที่ กองร้อย ปจ.ในสังกัด ภ.2 เมื่อได้รับการร้องขอ
    2. ประชาสัมพันธ์หรือปฏิบัติการทางจิตวิทยาให้ประชาชนทราบถึงสิทธิการชุมนุมประท้วงตามกรอบของกฎหมายและการปฏิบัติตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่เมื่อมีการละเมิดกฎหมาย

ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนทราบถึงระดับการใช้กำลัง

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. เป็นชุดสนับสนุนกองร้อย ปจ. ที่จัดไว้แล้ว
                2. การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่และการปฏิบัติต่อประชาชนรวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
                3. การประสานงานการปฏิบัติและร่วมกับกองร้อย ปจ.อื่นๆ ได้อย่างไม่สับสน
                4. กลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำทราบถึงกรอบของกฎหมายและระดับการใช้กำลัง
ทางลบ
                1. ปัจจุบันกำลัง ปจ.ของหน่วย มีเพียง 1 หมวด เมื่อสนับสนุนกับท้องที่จะปฏิบัติการได้ไม่เต็มศักยภาพ
                2. ความขัดแย้งทางการเมืองและความคิดของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละฝ่ายเริ่มไม่เคารพกฎหมายและสายการบังคับบัญชาที่ยาวไม่มีผู้ใดกล้าตัดสินใจใช้กำลังแม้ว่าจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระดับการใช้กำลังแล้วก็ตาม

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. มีกำลัง ปจ.สนับสนุนกองร้อย ปจ. ปกติได้ เมื่อได้รับคำสั่ง
                2. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการได้ตามกรอบของระดับการใช้กำลัง
                3. กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอยู่ในกรอบของกฎหมาย
                4. เหตุการณ์สงบไม่มีความรุนแรง
ทางลบ
                1. เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความเครียดเมื่อปฏิบัติหลายวันอาจทำให้ความอดทนต่อการยั่วยุของกลุ่มชุมนุมลดลงทำให้เกิดเหตุปะทะจนลุกลามกลายเป็นเหตุร้ายแรง            

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

6.

งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

  1. จัดครูฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจ โดยจัดหลักสูตรและเตรียมแผนการฝึกตามระดับความสำคัญของยุทธวิธีให้ตามความเหมาะสม
    1. ฝึกอบรมทบทวนภายใน
    2. ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานภาครัฐนอกสังกัด ตร.

ฝึกอบรมให้แก่เอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชน ได้รับการฝึกอบรมจากครูฝึกที่มีความรู้ความชำนาญรวมทั้งเป็นผู้ปฏิบัติงานจริงสามารถให้ความรู้ทักษะทางด้านการยิงปืน การป้องกันตัว ฯ ได้ดี
            2. สำหรับเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่รับการฝึกทางด้านยุทธวิธีสามารถลดความสูญเสีย และการความรอบคอบในการปฏิบัติงาน การวางแผนการปฏิบัติงานที่ดี
                3. สร้างภาพลักษณ์ให้กับภาคเอกชนและประชาชนได้เป็นอย่างดี
                4. เป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในภายนอกและระหว่างหน่วยงานได้เป็นอย่างดี
ทางลบ
                1. เจ้าหน้าที่ที่ไม่ชอบการฝึกจะทำให้เกิดบรรยากาศทั้งระหว่างการฝึกและหลังการฝึกไม่ดี
                2. ผู้ได้รับการฝึกอาจนำไปต่อยอดการฝึก เทคนิคต่าง ๆ ให้กับกลุ่มคนร้ายโดยคาดไม่ถึง

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. เป็นที่เชื่อของหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชน ประชาชนทั่วไป และให้ความสนใจที่จะเข้ามารับการฝึกอบรม
                2. เป็นภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงานได้ในระยะยาว
                3. มีการถ่ายเทคนิคและยุทธวิธีให้กับข้าราชการตำรวจอย่างต่อเนื่องจนเป็น รปจ. ทำให้ลดการสูญเสียของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานทางด้านการจับกุมคนร้าย การตรวจอาคาร ยานพาหนะ
ทางลบ
                1. ผู้ที่ผ่านการฝึกอาจนำไปถ่ายทอดให้กับคนร้ายโดยไม่รู้ตัว

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

7.

งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ พยานคดีสำคัญ ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ฯ
  2. จัดเจ้าหน้าที่สิบเวรยามรักษาความปลอดภัย กก.ปพ.ฯ , บ้านพักข้าราชการของผู้บังคับบัญชา

รักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานมหกรรม เมื่อได้รับการร้องขอ

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. สร้างความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
                2. เป็นการคุ้มครองพยานสำคัญ ผู้ต้องหาสำคัญ ระหว่างเดินทาง ฝากขัง ถูกลอบทำร้าย หรือชิงตัว
                3. สร้างความปลอดภัยให้กับสถานที่สำคัญ หรือมีบุคคลสำคัญพักอาศัยอยู่
                4. สถานที่ราชการทั้งที่หน่วย


ทางลบ
                1. ผู้กว้างขวาง หรือผู้มีอิทธิพล นักการเมืองบางคนอาจใช้เป็นเครื่องมือในการคุ้มครอง
                2. จะสูญเสียกำลังไปในการคุ้มครองจากภารกิจหลักของตำรวจเมื่อต้องไปปฏิบัติเป็นระยะเวลานาน

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. เป็นเครื่องให้กับผู้บังคับบัญชาในการพิจารณาใช้เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญในลักษณะและสถานการณ์ต่างๆ ได้
                2. เป็นการคุ้มครองดูแลประชาชนที่มีความสำคัญได้
                3. เมื่อมีภารกิจสำคัญ ๆ สามารถสนับสนุนกำลังการ รปภ.บุคคลและสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางลบ
                1. อาจเป็นเครื่องมือของผู้มีอิทธิพล นักการเมืองบางคน หรือนักธุรกิจบางคน อาศัยช่องทางขอเจ้าหน้าที่ไปทำการคุ้มครองให้
                2. กำลังเจ้าหน้าที่ในงานปกติจะหายไปเพราะระยะเวลาในการคุ้มครองแล้วแต่ความเห็นชอบจากผู้บังคับชา(ตามขั้นตอน)
            3. สร้างนิสัยที่ไม่ดีให้แก่ตำรวจผู้ปฏิบัติ เพราะมีความรู้สึกว่าเป็นงานสบาย ไม่ต้องมาทำหน้าที่ปฏิบัติงานตามสายงานปกติ

 

ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ  โพธิ์ทองนาค ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
               

ผู้รับบริการหลัก  ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สอดคล้องกับพันธกิจหลักและผลผลิตหลัก
ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
วันอังคารที่ 28 เม.ย.2552

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.1 : ระดับความสำเร็จของการพัฒนาองค์กรแบบองค์รวมมุ่งเน้น
  Output , Outcome และ Impact โดยีคู่เทียบเคียง (Benchmarking)

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

ขอบเขตในการศึกษาเพื่อกำหนดผู้รับบริการหลัก
                1. ใช้ข้อมูลจากผลการศึกษาของคณะทำงานขั้นที่ 1 ข้อ 1.1 นำมาใช้พิจารณา
                2. วิเคราะห์ผู้รับบริการหลักในแต่ละส่วนงาน

ตารางผลผลิต บริการหลัก และผู้รับบริการ
งานตามโครงสร้าง กก.ปพ.ศสส.ภ.2

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

ผู้รับบริการหลัก

1.

งานอำนวยการและธุรการ

  1. ดำเนินการทางด้านงานธุรการ การประสานงานกับหน่วยเหนือ หน่วยข้างเคียง หน่วยงานนอกสังกัด ตร. ทั้งภาครัฐและเอกชน
  2. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ ที่จำเป็นแก่ประชาชน  หน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน   เช่น ภัยการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ บุคคลมีหมายจับการก่อความไม่สงบ การสังเกตและการปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิด การป้องกันตัวสำหรับสตรีและเยาวชน ฯ
  3. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ เช่น ข้อมูลบุคคลต้องสงสัยของอาชญากรข้ามชาติ บุคคลก่อความไม่สงบ คนร้ายมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล ฯ แล้วจัดทำเป็นเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
  4. ดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือการร้องเรียนจากประชาชน การรายงานผลการปฏิบัติ และการเก็บรวบรวมข้อมูลของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

-หน่วยงานในสังกัด ภ.2
-หน่วยงานภาครัฐ
-หน่วยงานเอกชน
-ประชาชน
-นักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างประเทศ

2.

งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อเตรียมพร้อมในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 หรือตามที่ ตร.มอบหมาย ทั้งที่มีหมายกำหนดการหรือเป็นการส่วนพระองค์

-หน่วยงานในสังกัด ตร.และ ภ.2
-กรมสมุหราชองครักษ์
-ฝ่ายทหาร
-สำนักพระราชวัง

 

3.

งานเจรจาต่อรอง

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองรองรับ กรณี คนร้ายจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย กลุ่มชุมนุมประท้วง เพื่อสนับสนับตำรวจพื้นที่ในการปฏิบัติและเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

-ประชาชน
-หน่วยงานในสังกัด ภ.2
-ดับเพลิง ไฟฟ้า ประปา
-กู้ภัย มูลนิธิ

4.

งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ที่ได้รับการฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร261 บก.สอ.บช.ตชด.
    1. มีหน้าที่สนับสนุนตำรวจท้องที่ทางด้านยุทธวิธีในการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ การเสนอแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุวิกฤติ การประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางยุทธวิธี

-ประชาชน
-หน่วยงานในสังกัด ภ.2
-ภาครัฐ จังหวัด ท้องถิ่น
-เอกชน
-ธนาคาร
-ร้านค้าทอง

5.

งานควบคุมฝูงชน

  1. จัดเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดอาวุธพิเศษ ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ48)
    1. เพื่อสนับสนุนตำรวจท้องที่ กองร้อย ปจ.ในสังกัด ภ.2 เมื่อได้รับการร้องขอ

-หน่วยงานในสังกัด ตร. , ภ.2
-ประชาชน

6.

งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

  1. จัดครูฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจ โดยจัดหลักสูตรและเตรียมแผนการฝึกตามระดับความสำคัญของยุทธวิธีให้ตามความเหมาะสม
    1. ฝึกอบรมทบทวนภายใน
    2. ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานภาครัฐนอกสังกัด ตร.
    3. ฝึกอบรมให้แก่เอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป

-หน่วยงานในสังกัด ภ.2
-หน่วยงานภาครัฐ
-เอกชน
-ประชาชน

7.

งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ พยานคดีสำคัญ ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ฯ
  2. จัดเจ้าหน้าที่สิบเวรยามรักษาความปลอดภัย กก.ปพ.ฯ , บ้านพักข้าราชการของผู้บังคับบัญชา
  3. รักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานมหกรรม เมื่อได้รับการร้องขอ

-ประชาชน
-หน่วยงานในสังกัด ภ.2
-บุคคลสำคัญ
-ภาครัฐ เช่น ศาล อัยการ เรือนจำ
-ภาคเอกชนที่ร้องขอตามขั้นตอน
-พยานสำคัญ
-ผู้ต้องหาสำคัญ
-จังหวัด ท้องถิ่น

ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ  โพธิ์ทองนาค ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ

แนวทางการพัฒนา
กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
แบบองค์รวมเพื่อยกระดับสู่มาตรฐานสากล

1. ผู้รับผิดชอบ
1.1 พ.ต.อ.นิพนธ์  พานิชเจริญ          ผู้กำกับการ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศสส.ภ.2
                1.2 คณะทำงานตัวชี้วัดที่ 3.1.22.1
                                1.2.1 พ.ต.ท.ไพโรจน์  หมื่นกล้าหาญ              รอง ผกก.กก.ปพ.ศสส.ภ.2
                                1.2.2 ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค              เลขาธิการ / คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบ          

2. หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันสภาพปัญหาอาชญากรรมในประเทศไทย มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น มีความสลับซับซ้อน ทั้งอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน คนร้ายหรือผู้ถูกจับในคดีต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะเข้าทำการจับกุม ซึ่งจากข่าวสารทางสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ได้ลงประกาศข่าวคนร้ายต่อสู้ขัดขวางยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเสียชีวิตไปหลายนาย รวมทั้งการก่ออาชญากรรมของเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มสูงขึ้นตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคม การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศเข้าถึงกลุ่มเยาวชนในโรงเรียนมากขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายของโจรก่อการร้ายทั้งภายในประเทศ การก่อการร้ายข้ามชาติและการก่อการร้ายสากล รวมทั้งมีการจับตัวประกันจากผู้ติดยาเสพติดและวิกลจริตเพิ่มมากขึ้น การจับบุคคลเรียกค่าไถ่ ปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่มีพฤติการณ์รุนแรงเกินขอบเขตของกฎหมาย  ซึ่งภัยดังกล่าวได้สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนและเป็นอันตรายต่อสังคมโดยรวมอย่างกว้างขวาง  
จากสภาพปัญหาในภาพรวมดังกล่าว กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตระหนักถึงปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ประกอบกับหน่วยงานระดับสูงทั้งรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนราชการอื่น ได้ปรับปรุงวิธีการทำงาน พัฒนาองค์กร บุคลากร การบริหารจัดการเพื่อให้หน่วยงานสร้างความเชื่อถือให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ สำหรับกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ ตำรวจภูธรภาค 2 มีอำนาจและหน้าที่ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 กำหนดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนทางยุทธวิธีตำรวจพิเศษแก่ตำรวจพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในเขตรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2 ต้องมีการฝึกทบทวนโดยการจัดให้มีการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร พัฒนาเทคนิควิธี วิธีการป้องกันปราบปราม พัฒนาวิธีการปฏิบัติ พัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ ระบบการข่าว สร้างความมั่นคงปลอดภัย เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้กับประชาชน สามารถปฏิบัติและเผชิญเหตุได้ตลอดเวลาและมีประสิทธิภาพสูงสุด ตามแผนรักษาความสงบ(กรกฎ48) และแผนสันติรัฐ 48 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอำนาจหน้าที่ตาม ป.อาญา ป.วิอาญา โดยได้แบ่งงานที่รับผิดชอบของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้ดังนี้

  1. งานอำนวยการและธุรการ
  2. งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
  3. งานเจรจาต่อรอง
  4. งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
  5. งานควบคุมฝูงชน
  6. งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
  7. งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

        งานดังกล่าวทั้ง 7 งานข้างต้น ต้องมีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อจะได้พัฒนาเป็นองค์รวมของทั้งหน่วยตามแนวทางที่จะได้กำหนดไว้ต่อไป

3. วัตถุประสงค์
 3.1 เพื่อพัฒนาข้าราชการตำรวจกองกำกับปฏิบัติการพิเศษ ให้มีความสามารถสูงสุดในการแก้ไขเหตุวิกฤติ การเจรจาต่อรอง ป้องกันการเกิดอาชญากรรม การปิดล้อมที่เกิดเหตุ ยุทธวิธีการเข้าปฏิบัติการในยานพาหนะ การช่วยเหลือตัวประกัน การเข้าปฏิบัติการในอาคารหรือระยะประชิด (Close Quarter battle : CQB) ตามแบบของหน่วยปฏิบัติการยุทธวิธีตำรวจพิเศษ (SWAT) กองร้อยควบคุมฝูงชน งานการฝึก และงานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2 และเพื่อความผาสุกของประชาชน
               
4. เป้าหมาย
4.1 ระยะสั้น
                - พัฒนาระบบงานที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันให้มีระบบ มีประสิทธิภาพ เท่าที่มีบุคลากร งบประมาณ สนับสนุนอยู่ก่อนแล้ว ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
                - บริหารจัดการกำลังพลให้พร้อมปฏิบัติงานทั้ง 7 งาน
                - พัฒนากำลังพลให้มีความรู้ ความสามารถ ในการปฏิบัติงานในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบได้
4.2 ระยะยาว
                - กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 มีผลการปฏิบัติงานเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ทางด้านการปฏิบัติการทางยุทธวิธีพิเศษ
                - มีบุคลากรที่มีคุณภาพปฏิบัติงานเพื่อแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุวิกฤต
               
5. ระยะเวลาดำเนินการ
                - ระยะสั้น 1 ปี
                - ระยะยาว 3 ปี

6. แนวทางการปฏิบัติในการพัฒนาหน่วย
แนวคิด
                                พัฒนาหน่วยงาน และบุคลากร ในหน่วยให้มีศักยภาพมากขึ้น และพัฒนาไปจนอยู่ในชั้นนำของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ระดับภาค หรือ ตร. ดังนี้
งานด้านอำนวยการและธุรการ
                                1. ฝึกอบรมความรู้ในงานด้านธุรการ งานด้าน IT งานสื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์
                                2. เมื่อมีความรู้แล้ว นำมาใช้ปรับปรุงงานอำนวยการธุรการดังนี้
                                                - งานโต้ตอบเอกสาร งานเข้า – ออก
                                                - งานด้านภารกิจที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ
                                                - การจัดเก็บเอกสารอย่างเป็นระบบ
                                                - การประชาสัมพันธ์ การให้ข้อมูลข่าวเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของหน่วยทางสื่อต่าง ๆ
                                                - งานด้านกำลังพล
                                                - งานงบประมาณ
                                                - งานส่งกำลังบำรุง
                                                - งานสวัสดิการ
งานฝ่ายปฏิบัติการ             
                                1. ปรับแผนการฝึกของหน่วยทางยุทธวิธีตำรวจพิเศษ ให้สอดคล้องกับแผนหลักของ ตร. หรือ ภ.2  ได้แก่ งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ , งานเจรจาต่อรอง , งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ , งานควบคุมฝูงชน , งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ , งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่
2. สรรหาบุคลากรที่มีความสามารถภายในหน่วยเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติ และสามารถเป็นครูฝึกให้แก่ สภ.ทุกแห่งในสังกัด ภ.2 หรือส่วนอื่นตามที่ได้รับการร้องขอ
3. หาวิทยากรเพื่อทำการฝึกเพิ่มเติมในด้านต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา และนำมาบรรจุเป็นหลักสูตรการฝึกเพิ่มประสิทธิภาพชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษให้มากขึ้นไปอีก
4. จัดทำเอกสารประกอบการฝึกไว้อย่างเป็นระบบ และปรับยุทธวิธีที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานการณ์
5. จัดทำโครงการสร้างสนามยิงปืนทางยุทธวิธีตำรวจพิเศษ เพื่อรองรับการขยายผลการฝึกให้กับตำรวจชุดปฏิบัติทั้งหมด ของ ภ.2 ได้แก่ สายตรวจ สายสืบสวน ชุดปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น ชุดปราบปรามยาเสพติด ชุดปราบปรามต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ธุรการด้วย
6. จัดทำโครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติการพิเศษ เช่น อาวุธปืนเล็กกลเบา (Submachine gun) ขนาด 9 มม. หรือ ขนาด 5.56 (A1M4) , ปืนซุ่มยิงระยะไกล , ปืนซุ่มยิงระยะกลาง , กล้องเล็งต่าง ๆ , กล้องส่องกลางคืน , GPS , เกราะกันกระสุนปืนสงคราม , หมวกกันกระสุน , หน้ากากกันกระสุน , เชือกรูดเร็ว (Fast Rope) , เชือกโรยตัว พร้อมอุปกรณ์การโรยตัว , ถุงมือยุทธวิธี , ชุดหมีกันไฟ , โล่ห์กันกระสุน , เครื่องทำลายประตู , รถยนต์สมรรถนะสูง , ฯ
7.ปรับปรุงหน่วยให้สะอาด เป็นสัดส่วน มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
8.จัดทำสถานที่ฝึกทางยุทธวิธีระดับผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อรองรับการขยายผลการฝึกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง ภ.2
9.เก็บข้อมูลและวิเคราะห์การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งที่ประสบความสำเร็จและที่เกิดข้อผิดพลาดมีการสูญเสีย เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีก
10.ซักซ้อมแผนและยุทธวิธีในการเข้าคลี่คลายเหตุการณ์ในแต่ละสถานการณ์ที่ต่างกันเป็นประจำ
11.เป็นชุดสนับสนุนกำลังทางยุทธวิธีให้แก่ ภ.2 และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งแนะนำยุทธวิธีการปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้แก่ผู้บังคับบัญชาในการตัดสินใจการใช้กำลัง
12.จัดอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามแผนต่าง ๆ ของ ตร. ให้สามารถทำงานประสานกันและปฏิบัติงานได้จริง โดยแบ่งส่วนต่าง ๆ อบรม เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้ซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนรายจังหวัดทุกจังหวัด เช่น
- บก.เหตุการณ์
- ชุดเจรจาต่อรอง
- ชุดข่าวกรอง วิเคราะห์ข่าว
- ชุดสนับสนุน เช่น กบ. , พธ. , E.O.D. , K9 , ดับเพลิง , พยาบาล , ไฟฟ้า , ประปา , องค์การโทรศัพท์
- ชุดประชาสัมพันธ์
- ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ (S.W.A.T.)
- ชุดพิเศษเฉพาะกิจ
                 ฯ
13.จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพหน่วยปฏิบัติการพิเศษประจำโรงพัก (S.W.A.T.) ทุก สภ.ในสังกัด เพื่อประโยชน์ในการรองรับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่ไม่สามารถรอชุด S.W.A.T. จากหน่วยหลักได้ หรือการทำงานร่วมกันได้รวมทั้งรับรู้ขั้นตอนการปฏิบัติเบื้องต้นและแนะนำ ผบ.เหตุการณ์ในระดับต้นได้ จะได้ไม่สับสนและมีระบบ
14.เสนอผู้บังคับบัญชารวบรวมรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะปฏิบัติตามแผนต่าง ๆ ไว้ทั้งหมดเพื่อเรียกตัวได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
15.จัดทำแผนการปฏิบัติต่าง ๆ ภายในหน่วยเพื่อให้เป็น รปจ. และพร้อมที่สนับสนุนการปฏิบัติการต่าง ๆ ได้ทุกส่วนและมีประสิทธิภาพ
16.จัดทำสวัสดิการภายในหน่วยให้ดีขึ้น เช่น อาหารกลางวัน , น้ำ , ไฟ , บรรยากาศหน่วยงานที่ดี , ร้านค้าสวัสดิการ , รายได้เสริม , คอมพิวเตอร์ , การอบรมอาชีพให้กับแม่บ้าน ฯ
17. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

 

6.4 การกำกับดูแล
                ผกก.กก.ปพ.ฯ
6.4 การประเมินผลการฝึกอบรม
                หัวหน้าชุดผู้รับผิดชอบแต่ละหน้างานที่ได้จัดไว้แล้ว
7. งบประมาณ  
                โดยการสนับสนุนงบประมาณของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๒
8. สถานที่ดำเนินการ
8.1 กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค ๒
8.2 ลานฝึก บริเวณ ศสส.ภ.2
8.3 ส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รัฐวิสาหกิจหรือสถานที่ของภาคเอกชนเท่าที่จำเป็น

9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
                9.1 กก.ปพ.มีเจ้าหน้าที่ที่มีศักยภาพ ความสามารถ ในแต่ละงานอยู่ประจำงานต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติงานได้
                9.2 สามารถแก้ไขเหตุวิกฤติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                9.3 มีความรู้ความชำนาญในการใช้อุปกรณ์พิเศษในการเข้าปฏิบัติการในอาคารได้เป็นอย่างดี
                9.4 มีความรู้ ความสามารถ ในการปฏิบัติการในยานพาหนะและอากาศยานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์
                9.5 มีความรู้ความเข้าใจ สภาพปัญหาอาชญากรรม ปัญหาการก่อการร้าย ปัญหาการก่อวินาศกรรมและรู้แนวทางการแก้ไข ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
9.6 มีความรู้ คามสามารถ ทักษะ ในการระงับยับยั้งอาชญากรรม และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น การก่อวินาศกรรม การข่มขู่ว่าก่อเหตุระเบิด การก่อความไม่สงบ ปัญหายาเสพติด การช่วยเหลือตัวประกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9.7 สามารถ นำความรู้ เทคนิคใหม่ ๆ มาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม ตามสถานการณ์
9.8 มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน การปฏิบัติการ ป้องกัน ต่อต้านและปราบปรามการก่อการร้ายอย่างมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล
9.9 สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
9.10 สามารถจัดชุดครูฝึกทางยุทธวิธีพิเศษ ขยายผลการการฝึกให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ได้ดี
10. ผู้เสนอแนวทาง                                                        
                                                                   ว่าที่ พันตำรวจตรี สุริยะ   โพธิ์ทองนาค
                                             สารวัตร กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค ๒

11. ผู้เห็นชอบ
                                                                     พันตำรวจโท ไพโรจน์ หมื่นกล้าหาญ
                                                       รองผู้กำกับการ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค ๒                                                           
12. ผู้เห็นชอบ
                                                                        พันตำรวจเอกนิพนธ์ พานิชเจริญ
                                                         ผู้กำกับการ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค ๒

TOP กลับไปสารบัญ

 

เอกสารการวัดผลที่เป็นผลลัพธ์ (Outcome)
ของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
***********************************************************************************


ผู้รับผิดชอบ
ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค              สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2
เอกสารที่ใช้ประกอบการวัดผลที่เป็นผลลัพธ์
            1. ผลการศึกษาและกำหนดผลผลิตและบริการหลัก (Output หลัก) ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 วันอังคารที่ 28 เม.ย.2552
            2. ผลการประชุมสัมมนาคณะทำงานกำหนดผลผลิตและบริการหลัก ผลลัพธ์และผลกระทบทางบวกและทางลบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 วันอังคารที่ 28 เม.ย.2552
            3. ผู้รับบริการหลัก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สอดคล้องกับพันธกิจหลักและผลผลิตหลัก ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 วันอังคารที่ 28 เม.ย.2552

ตารางการวัดผลที่เป็นผลลัพธ์ Outcome ที่จะนำไปใช้ประกอบใช้แบบดังต่อไปนี้

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

1.

งานอำนวยการและธุรการ

-ปริมาณหนังสือรับ-ส่ง

 

เรื่อง

 

-จำนวนหัวข้อที่จัดทำเอกสารการในการประชาสัมพันธ์

 

เรื่อง

 

-จำนวนช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของหน่วย

 

ช่อง

 

-จำนวนการรับแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสจากประชาชน หรือคำสั่งจากผู้บังคับชาในการตรวจสอบข้อมูลตามที่ได้รับแจ้ง

 

เรื่อง

 

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

2.

งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ

-จำนวนภารกิจด้านการถวายความปลอดภัย

 

ครั้ง

 

-จำนวนชั่วโมงการฝึกทบทวนเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษ

 

ชั่วโมง

 

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

3.

งานเจรจาต่อรอง

-จำนวนเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรอง

 

นาย

 

-จำนวนการออกไปปฏิบัติหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือประชาชน

 

ครั้ง

 

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

4.

งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ

-จำนวนเจ้าหน้าที่ชุด SWAT

 

นาย

 

-จำนวนภารกิจการออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

 

ครั้ง

 

-จำนวนชั่วโมงการฝึกทบทวนของชุด SWAT

 

ชั่วโมง

 

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

5.

งานควบคุมฝูงชน

-จำนวนเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน

 

นาย

 

- จำนวนภารกิจที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่

 

ชั่วโมง

 

-จำนวนชั่วโมงการฝึกทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน

 

ชั่วโมง

 

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

6.

งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

-จำนวนหน่วยงานที่ร้องขอให้ทำการฝึก

 

หน่วย

 

-จำนวนชั่วโมงการฝึกทบทวนให้แก่หน่วยงานทั้งหมด

 

ชั่วโมง

 

ลำดับ

ผลผลิต

ตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์

ผลการปฏิบัติ/หน่วยนับ

คะแนน

7.

งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

-จำนวนเจ้าหน้าที่สิบเวรยามที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่บุคคลสำคัญ

 

นาย

 

-จำนวนภารกิจในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและระยะเวลา(คิดเป็นชั่วโมง)

 

ชั่วโมง

 

-จำนวนภารกิจในการรักษาความปลอดภัยกิจกรรมสำคัญเช่นมหกรรมการแสดง คอนเสิร์ตที่สุ่มเสี่ยง

 

ครั้ง

 

ว่าที่ พ.ต.ต. สุริยะ  โพธิ์ทองนาค  ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
                                                                   

 

บันทึกรายงานการประชุมชี้แจงนโยบาย
การปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี พ.ศ.2552
ตัวชี้วัดที่ 3.1.22 : ระดับความสำเร็จของการบริหารจัดการองค์กรสู่มาตรฐานสากล
ในวันพุธที่  29 เม.ย.2552 เวลา 13.00 น.
ณ ห้องประชุม กก.ปพ.ศสส.ภ.2

 

รายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม
                                                1. พ.ต.อ.นิพนธ์                   พานิชเจริญ           ประธาน / ผกก.กก.ปพ.ฯ
                                                2. พ.ต.ท.ไพโรจน์                หมื่นกล้าหาญ      รองประธาน / ผู้กำกับดูแลตัวชี้วัด
                                                3. ว่าที่ พ.ต.ต. สุริยะ            โพธิ์ทองนาค        เลขานุการ / คณะทำงาน/จัดเก็บข้อมูล
                                                4. ด.ต.บุญเยี่ยม                     ศรีวิเศษ                  คณะทำงาน
                                                5. ด.ต.เกียรติ                         มูลมาตย์ คณะทำงาน
                                                6.ข้าราชการ กก.ปพ.ศสส.ภ.2                                          
เริ่มประชุมเวลา  13.00 น.
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งที่ประชุมทราบ
ประธาน กล่าวเปิดประชุมชี้แจ้งรายละเอียดให้ที่ประชุมรับทราบ ถึงการเรียกประชุมเป็นการเร่งด่วน โดยกล่าวถึงที่มาและความสำคัญของการปฏิบัติราชการให้มีประสิทธิภาพตามแนวทางวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้บรรลุผลสมความคาดหวังของประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งผู้บังคับบัญชาทั้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่น ๆ ต่างก็ได้มีการกำหนดนโยบายแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับสภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ในปัจจุบัน และได้เริ่มปฏิบัติกันอย่างจริงจังมาโดยตลอดแล้ว ในส่วนของ กก.ปพ.ศสส.ภ.2 ได้รับมอบหมายความรับผิดชอบในตัวชี้วัดที่ 3.1.22 : ระดับความสำเร็จของการบริหารจัดการองค์กรสู่มาตรฐานสากล ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะองค์กรต้องมีการพัฒนาให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากลเพื่อให้บริการประชาชน และ สนับสนุนการปฏิบัติราชการแก่หน่วยงานอื่นในส่วนที่เรามีศักยภาพมีความชำนาญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกนายได้ช่วยกันดำเนินการให้บังเกิดผลสำเร็จต่อไป และมอบหมายให้คณะทำงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ระเบียบวาระที่ 2                  เรื่องเพื่อทราบ

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

1.

งานอำนวยการและธุรการ

  1. ดำเนินการทางด้านงานธุรการ การประสานงานกับหน่วยเหนือ หน่วยข้างเคียง หน่วยงานนอกสังกัด ตร. ทั้งภาครัฐและเอกชน
  2. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ ที่จำเป็นแก่ประชาชน  หน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน               เช่น ภัยการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ บุคคลมีหมายจับการก่อความไม่สงบ การสังเกตและการปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิด การป้องกันตัวสำหรับสตรีและเยาวชน ฯ
  3. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ เช่น ข้อมูลบุคคลต้องสงสัยของอาชญากรข้ามชาติ บุคคลก่อความไม่สงบ คนร้ายมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล ฯ แล้วจัดทำเป็นเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
  4. ดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือการร้องเรียนจากประชาชน การรายงานผลการปฏิบัติ และการเก็บรวบรวมข้อมูลของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีการประสานงานที่ดีภายในหน่วยงาน ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีระบบมากขึ้น
                2. หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน เริ่มรู้จักและมีความเข้าใจในภารกิจของหน่วยมากขึ้น
                3. ประชาชนและหน่วยงานต่างๆได้รับข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้องของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษฯ
                4. มีช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูล เบาะแส เกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรง การจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย ฯ
ทางลบ
                1. จำนวนเจ้าหน้าที่ธุรการมีน้อย หากมีปริมาณงานการบริการหลักมีข้อปฏิบัติมาก อาจทำให้เกิดการล่าช้าในงานบางอย่างได้
                2. ความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างมากโดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร
อินเตอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์
                3. การเปิดช่องทางการแจ้งเบาะแสอาจเป็นช่องในการกลั่นแกล้งของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแก่อีกฝ่ายหนึ่งได้

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. งานอำนวยการและธุรการมีระบบ การจัดเก็บข้อมูล มีการประสานงานที่ดีภายในและภายนอกหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน
                2. หน่วยงานภายในและภายนอกสังกัด หน่วยงานข้างเคียง ภาครัฐและเอกชน ให้ความเชื่อถือและรับทราบภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
                3. การให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่องานเกี่ยวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีช่องทางให้ข่าวสาร ร่วมมือกับหน่วยงานซึ่งเป็นงานเฉพาะทางได้เป็นอย่างดี
ทางลบ
                1. ข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ อาวุธร้ายแรง เมื่อประชาสัมพันธ์ออกไป อาจทำให้เกิดการตื่นตระหนกได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
                2. กลุ่มชุมนุมประท้วงทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่บางขั้นตอนโดยเฉพาะรู้ตัวผู้บังคับบัญชาชั้นสูงและอาจนำไปใช้ในการต่อรองกดดันฝ่ายบริหาร
                3. คนร้าย หรือผู้ก่อความไม่สงบ หรือผู้ก่อการร้าย อาจได้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือกับเจ้าหน้าที่ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ(SWAT) และอาจทำการต่อต้านในการเข้าแก้ไขสถานการณ์ หรือการจับกุมได้

 

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

2.

งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อเตรียมพร้อมในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 หรือตามที่ ตร.มอบหมาย ทั้งที่มีหมายกำหนดการหรือเป็นการส่วนพระองค์
  2. ร่วมตรวจพื้นที่รับเสด็จและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในขบวนเสด็จรวมทั้งตำรวจพื้นที่ หน่วยราชการอื่น ๆ ที่ร่วมปฏิบัติ

                                -หน่วยงานในสังกัด ตร.และ ภ.2
                                -กรมสมุหราชองครักษ์ หรือฝ่ายทหาร 
                                -สำนักพระราชวัง    -หน่วยงานอื่นๆที่ร่วมปฏิบัติในการ ถปภ.

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีความพร้อมในการปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
                2. มีการประสานการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการถวายความปลอดภัย
ทางลบ
                1. จำนวนเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์มีน้อยและมีภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือตัวประกันและสนับสนุนพื้นที่ทางด้านยุทธวิธีด้วย หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในช่วงที่กำลังปฏิบัติภารกิจรับเสด็จอยู่ ในการช่วยเหลือตัวประกันจะมีเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ไม่เพียงพอ ซึ่งหัวหน้าชุดต้องปฏิบัติภารกิจ ถปภ.ด้วยตนเองทุกครั้ง
                2. หากมีขบวนเสด็จหลายพระองค์พร้อมๆกันในพื้นที่ กำลังจะไม่เพียงพอ รวมทั้งยานพาหนะที่ได้รับจ่ายแจกจาก นรป.ที่ใช้การ ถปภ.ของ กก.ปพ.ฯ มีเพียง 2 คัน อาจทำให้เกิดการล่าช้าในการถวายความปลอดภัยเพราะต้องนำรถที่อยู่ในส่วนอื่นมาใช้ในการรับเสด็จ
               
ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจและให้ความสำคัญ เพิ่มอัตรากำลังพลชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษหรือขออนุมัติจัดตั้งเจ้าหน้าที่ไว้เป็นอีกแผนกหนึ่งเป็นการเฉพาะ
                2. หน่วยงานต่างๆที่ร่วมปฏิบัติ มีความรู้ความเข้าใจในภารกิจของรถอาวุธฯ และร่วมประสานการปฏิบัติในกรณีหรือเมื่อมีเหตุได้เป็นอย่างดี ไม่สับสน
                3. ได้รับงบประมาณในการจัดสรรอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัวในการต่อต้านการถูกซุ่มโจมตี ได้รับยานพาหนะที่มีสมรรถนะสูงประจำชุดรถอาวุธไว้โดยเฉพาะ
                4. ได้รับงบประมาณในการฝึกซ้อมการปฏิบัติต่างๆที่ใช้การถวายความปลอดภัยทั้งหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชุด
ทางลบ
                1. ความไม่เข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติในขบวนเสด็จอาจทำให้เกิดเหตุร้ายได้
                2. การประสานงานภายในขบวนและท้องที่ใช้ข่ายการสื่อสารคนละช่องทางในการติดต่ออาจทำให้เกิดปัญหาในการแจ้งเหตุ หรือข่าวสารใด
                3. ภารกิจทุกครั้งส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น อาจเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ในขบวน และส่วนอื่น ๆ ขาดความกระตือรือล้นในการระมัดระวังเหตุ และอาจไม่เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้แก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุ

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

3.

งานเจรจาต่อรอง

จัดเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองรองรับ กรณี คนร้ายจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย กลุ่มชุมนุมประท้วง เพื่อสนับสนับตำรวจพื้นที่ในการปฏิบัติและเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีเจ้าหน้าที่ชุดเจรจารองรับในเหตุเฉพาะ
                กรณี        - การจับตัวประกัน ฯ เพื่อประสานข้อมูลข้อเรียกร้อง จำนวนตัวประกัน คนร้าย อาคารสถานที่ ตำแหน่งที่อยู่ของตัวประกัน คนร้าย ลักษณะโครงสร้างอาคาร ให้แก่ชุดการข่าว และชุดช่วยเหลือตัวประกัน ได้เป็นอย่างดี
                                - แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง เพื่อให้ได้รับข้อมูลข้อเรียกร้องต่าง ๆ เพื่อเสนอชุดบริหารเหตุการณ์นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
                2. ผู้ที่ทำงานหรือที่ร่วมในสถานการณ์นั้น เช่น ตำรวจท้องที่ ตำรวจอาสา ประชาชน กู้ภัย มูลนิธิ รู้บทบาทของตัวเอง ไม่ดำเนินการในส่วนที่เป็นหน้าที่ของทางราชการ ซึ่งจะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
ทางลบ
                1. ปัจจุบันยังไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง เนื่องจากกำลังพลไม่เพียงพอ เมื่อได้รับการร้องขอทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติในส่วนชุดเจรจาได้
                2. เจ้าหน้าที่ต้องมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงในขั้นตอนการเจรจา ข้อมูล การตัดสินใจ การปฏิบัติของส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะชุดช่วยเหลือตัวประกันได้เป็นอย่างดี

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. หน่วยมีเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรอง ทำให้ประสานการปฏิบัติในทุกส่วนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีความรู้ความชำนาญในการต่อรอง การข่าว การลวงเอาข้อมูล การสังเกต เส้นวิกฤตที่ต้องดำเนินการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกัน
                2. มีการทำงานอย่างเป็นระบบ การกันสถานที่เกิดเหตุ และผู้ไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้
ทางลบ
                1. การทำงานของชุดเจรจาเมื่อทำงานสำเร็จบ่อยครั้งอาจทำให้มองเห็นเป็นวีรบุรุษ ทำให้เกิดพฤติการณ์อยากเป็นวีรบุรุษ เข้าไปเป็นผู้เจรจาเสียเอง ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นได้   

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

4.

งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ที่ได้รับการฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 จาก บก.สอ.บช.ตชด.

                มีหน้าที่  สนับสนุนตำรวจท้องที่ทางด้านยุทธวิธีในการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ การวางแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุวิกฤติ การประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางยุทธวิธี

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. หน่วยงานมีชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ(SWAT) รองรับเหตุซึ่งต้องเป็นชุดเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกมาโดยเฉพาะทางด้านยุทธวิธีการปฏิบัติการพิเศษ ทั้งการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย จู่โจมล้อมจับคดีสำคัญและสามารถเรียกกำลังได้อย่างรวดเร็ว
                2. เป็นชุดรองรับการปฏิบัติการตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นชุดสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาเหตุวิกฤติ
                3. เป็นหน่วยสนับสนุนชุดปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน สายตรวจ ท้องที่ ฯ ทางด้านยุทธวิธีพิเศษ เมื่อประสบกับคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง หรือมีพฤติการณ์ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
                4. สามารถทำงานร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 อรินทราช 26 เช่น การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการวางแผนทางยุทธวิธี กรณีการก่อการร้ายสากล แผนผังโครงสร้างอาคาร เส้นทาง ตัวประกัน คนร้าย
                5. ความปลอดภัยของตัวประกัน และประชาชน และมีความเชื่อถือและถือเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการปฏิบัติการทางด้านยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์การคับขันและวิกฤติ
ทางลบ
                1. ความไม่เข้าใจของประชาชนที่เห็นว่าชุด SWAT เป็นชุดที่มีอาวุธร้ายแรงเกินความจำเป็น
                2. หน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ทราบข้อมูลของการจัดตั้งชุด SWAT ขึ้นมาเพื่อรองรับเหตุวิกฤติตามกฎหมาย และผู้บังคับบัญชาไม่กล้าใช้ในการดำเนินกลยุทธ์
                3. หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชน ยังไม่ทราบขั้นตอนการปฏิบัติตามภารกิจของเจ้าหน้าที่ชุด SWAT อาจทำให้การปฏิบัติการบางสถานการณ์ไม่ลื่นไหล และต้องคอยตอบคำถามที่ไม่เข้าใจ
                4. ในคดีที่มีความละเอียดอ่อนต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะหาวิธีการพูดโจมตีหน่วยงานหรือรัฐบาลทำให้การปฏิบัติงานบางขั้นตอนเกิดการชะงักได้ 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ (SWAT) เป็นเครื่องมือของผู้บริหารเหตุการณ์ในการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันการก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย เมื่อเกิดเหตุที่ต้องใช้กำลังในการเข้าแก้ไขในทันที
                2. สามารถเสนอแนะแนวทาง แผนในการปฏิบัติในการช่วยเหลือตัวประกัน รวมทั้งขั้นตอนต่าง ๆ ในส่วนของชุดโจมตีและพลซุ่มยิง รวมทั้งแผนการรับตัวประกัน แผนการส่งคนร้าย
                3. ตำรวจท้องที่สามารถขอรับการสนับสนุนทางด้านยุทธวิธีเมื่อต้องประสบกับคนร้ายคดีสำคัญ อาวุธร้ายแรง หรือมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
                4. ตัวประกันปลอดภัย
                5. ได้รับการสนับสนุนในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ การฝึกหลักสูตรต่าง ๆ เพิ่มเติม
ทางลบ
                1. ประชาชนไม่เข้าใจเช่นการว่าเป็นการปฏิบัติการคล้ายทหารมากเกินไป
                2. หน่วยมีความจำเป็นต้องได้รับกำลังพลเพิ่ม
                3. ปัจจุบันอาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ มีสภาพเก่าไม่ทันสมัย อาจเกิดการเสียหายในการช่วยเหลือตัวประกันได้

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

5.

งานควบคุมฝูงชน

  1. จัดเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดอาวุธพิเศษ ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ48)
    1. เพื่อสนับสนุนตำรวจท้องที่ กองร้อย ปจ.ในสังกัด ภ.2 เมื่อได้รับการร้องขอ
    2. ประชาสัมพันธ์หรือปฏิบัติการทางจิตวิทยาให้ประชาชนทราบถึงสิทธิการชุมนุมประท้วงตามกรอบของกฎหมายและการปฏิบัติตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่เมื่อมีการละเมิดกฎหมาย

ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนทราบถึงระดับการใช้กำลัง

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. เป็นชุดสนับสนุนกองร้อย ปจ. ที่จัดไว้แล้ว
                2. การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่และการปฏิบัติต่อประชาชนรวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
                3. การประสานงานการปฏิบัติและร่วมกับกองร้อย ปจ.อื่นๆ ได้อย่างไม่สับสน
                4. กลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำทราบถึงกรอบของกฎหมายและระดับการใช้กำลัง
ทางลบ
                1. ปัจจุบันกำลัง ปจ.ของหน่วย มีเพียง 1 หมวด เมื่อสนับสนุนกับท้องที่จะปฏิบัติการได้ไม่เต็มศักยภาพ
                2. ความขัดแย้งทางการเมืองและความคิดของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละฝ่ายเริ่มไม่เคารพกฎหมายและสายการบังคับบัญชาที่ยาวไม่มีผู้ใดกล้าตัดสินใจใช้กำลังแม้ว่าจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระดับการใช้กำลังแล้วก็ตาม

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. มีกำลัง ปจ.สนับสนุนกองร้อย ปจ. ปกติได้ เมื่อได้รับคำสั่ง
                2. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการได้ตามกรอบของกฎหมายและระดับการใช้กำลัง
                3. กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอยู่ในกรอบของกฎหมาย
                4. เหตุการณ์สงบไม่มีความรุนแรง
ทางลบ
                1. เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความเครียดเมื่อปฏิบัติหลายวันอาจทำให้ความอดทนต่อการยั่วยุของกลุ่มผู้ชุมนุมลดลงทำให้เกิดเหตุปะทะจนลุกลามกลายเป็นเหตุร้ายแรง
                2. การฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนบ่อย ๆ โดยขณะที่มีการชุมนุมประท้วง อาจทำให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง หรือประชาชนทั่วไป มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กำลังในการสลายการชุมนุม          

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

6.

งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

  1. จัดครูฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจ โดยจัดหลักสูตรและเตรียมแผนการฝึกตามระดับความสำคัญของยุทธวิธีให้ตามความเหมาะสม
    1. ฝึกอบรมทบทวนภายใน
    2. ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานภาครัฐนอกสังกัด ตร.

ฝึกอบรมให้แก่เอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชน ได้รับการฝึกอบรมจากครูฝึกที่มีความรู้ความชำนาญรวมทั้งเป็นผู้ปฏิบัติงานจริงสามารถให้ความรู้ทักษะทางด้านการยิงปืน การป้องกันตัว ฯ ได้ดี
                2. สำหรับเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่รับการฝึกทางด้านยุทธวิธีสามารถลดความสูญเสีย และการความรอบคอบในการปฏิบัติงาน การวางแผนการปฏิบัติงานที่ดี
                3. สร้างภาพลักษณ์ให้กับภาคเอกชนและประชาชนได้เป็นอย่างดี
                4. เป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในภายนอกและระหว่างหน่วยงานได้เป็นอย่างดี
ทางลบ
                1. เจ้าหน้าที่ที่ไม่ชอบการฝึกจะทำให้เกิดบรรยากาศทั้งระหว่างการฝึกและหลังการฝึกไม่ดี
                2. ผู้ได้รับการฝึกอาจนำไปต่อยอดการฝึก เทคนิคต่าง ๆ ให้กับกลุ่มคนร้ายโดยคาดไม่ถึง

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. เป็นที่เชื่อของหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชน ประชาชนทั่วไป และให้ความสนใจที่จะเข้ามารับการฝึกอบรม
                2. เป็นภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงานได้ในระยะยาว
                3. มีการถ่ายเทคนิคและยุทธวิธีให้กับข้าราชการตำรวจอย่างต่อเนื่องจนเป็น รปจ. ทำให้ลดการสูญเสียของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานทางด้านการจับกุมคนร้าย การตรวจอาคาร ยานพาหนะ
ทางลบ
                1. ผู้ที่ผ่านการฝึกอาจนำไปถ่ายทอดให้กับคนร้ายโดยไม่รู้ตัว

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

7.

งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ พยานคดีสำคัญ ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ฯ
  2. จัดเจ้าหน้าที่สิบเวรยามรักษาความปลอดภัย กก.ปพ.ฯ , บ้านพักข้าราชการของผู้บังคับบัญชา

รักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานมหกรรม เมื่อได้รับการร้องขอ

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. สร้างความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
                2. เป็นการคุ้มครองพยานสำคัญ ผู้ต้องหาสำคัญ ระหว่างเดินทาง ฝากขัง ถูกลอบทำร้าย หรือชิงตัว
                3. สร้างความปลอดภัยให้กับสถานที่สำคัญ หรือมีบุคคลสำคัญพักอาศัยอยู่
                4. สถานที่ราชการทั้งที่หน่วย และที่พักผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีความปลอดภัย
ทางลบ
                1. ผู้กว้างขวาง หรือผู้มีอิทธิพล นักการเมืองบางคนอาจใช้เป็นเครื่องมือในการคุ้มครอง
                2. จะสูญเสียกำลังไปในการคุ้มครองจากภารกิจหลักของตำรวจเมื่อต้องไปปฏิบัติเป็นระยะเวลานาน

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. เป็นเครื่องให้กับผู้บังคับบัญชาในการพิจารณาใช้เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญในลักษณะและสถานการณ์ต่างๆ ได้
                2. เป็นการคุ้มครองดูแลประชาชนที่มีความสำคัญได้
                3. เมื่อมีภารกิจสำคัญ ๆ สามารถสนับสนุนกำลังการ รปภ.บุคคลและสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางลบ
                1. อาจเป็นเครื่องมือของผู้มีอิทธิพล นักการเมืองบางคน หรือนักธุรกิจบางคน อาศัยช่องทางขอเจ้าหน้าที่ไปทำการคุ้มครองให้
                2. กำลังเจ้าหน้าที่ในงานปกติจะหายไปเพราะระยะเวลาในการคุ้มครองแล้วแต่ความเห็นชอบจากผู้บังคับชา(ตามขั้นตอน)
                3. สร้างนิสัยที่ไม่ดีให้แก่ตำรวจผู้ปฏิบัติ เพราะมีความรู้สึกว่าเป็นงานสบาย ไม่ต้องมาทำหน้าที่ปฏิบัติงานตามสายงานปกติ

 

  - ประธาน  ตามคำสั่ง ศสส.ภ.2 ที่ 6/2552 ลง 4 ก.พ.2552 แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2552  และคำสั่ง กก.ปพ.ที่ 1/2552 ลง 12 ก.พ.2552 แต่งตั้งผู้รับผิดชอบดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2552  ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามตัวชี้วัดที่ 3.1.22 นี้ ซึ่งได้มอบหมายให้คณะทำงานดำเนินการศึกษาวิเคราะห์กำหนดผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบทางบวกและทางลบแล้วนำมากำหนดเป็นนโยบายในการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้ยกระดับสู่มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับและศรัทธาจากประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วและประธานได้เห็นชอบดำเนินการตามที่คณะทำงานกำหนดแนวทางมาแล้ว ขอมอบหมายให้คณะทำงานชี้แจงให้ที่ประชุมทราบ และจะได้มอบหมายผู้รับผิดชอบต่อไป รวมทั้งต้องมีการประเมินวัดผลที่เป็นผลลัพธ์ไว้เป็นหลักฐานด้วย 

                เลขานุการ  ตามที่ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตามตัวชี้วัดที่ 3.1.22 คณะทำงานได้ทำการศึกษาโดยนำ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 นำมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดผลผลิต ผลลัพธ์ ของ กก.ปพ.ศสส.ภ.2 ทำพิจารณาผู้รับบริการจากการปฏิบัติงานในส่วนต่าง ๆ ของหน่วย รวมทั้งได้วิเคราะห์ผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาวแล้วนำมาใช้กำหนดนโยบายการปฏิบัติของหน่วยเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ของหน่วยเหนือ คณะทำงานได้กำหนดนโยบายและผู้ปฏิบัติในส่วนต่าง ๆ แล้วจะได้ให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้
               
นโยบายในการพัฒนากองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
               
                ต้องมีการพัฒนาหน่วยให้อยู่ในระดับแนวหน้าของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ระดับ ตร. ดังเช่น หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 261 , อรินทราช 26 โดยมีศักยภาพและความชำนาญในทุก ๆ ด้าน โดยพัฒนาปรับปรุงหน้างานของกองกำกับการปฏิบัติพิเศษ ศสส.ภ.2 ตามอำนาจหน้าที่ได้กำหนดไว้ตาม ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 ตามรายละเอียดของผลผลิต และบริการหลักของหน่วย ผลลัพธ์และผลกระทบทางบกและทางลบของหน่วย ดังนี้

                ฉะนั้น ข้อมูลตามตารางข้างต้นต้องดำเนินการเป็นภารกิจหลักซึ่ง กก.ปพ.ฯ ที่ต้องตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการหลัก                                                                
                ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องประธานสั่งการในที่ประชุม
                ประธาน                ประธานสั่งการให้ คณะทำงานตามตัวชี้วัดที่ 3.1.22 ดังนี้
                                                1. มอบหมายให้คณะทำงานเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตามผลผลิตและบริการหลักเพื่อให้บรรลุผล และกำหนดเป็นตัวชี้วัดค่าเป้าหมายในการวัด ผลผลิตและบริการหลัก โดยทำจัดบันทึกผลการประชุมและการสั่งการของประธานให้ผู้รับผิดชอบลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน
                                                2. ให้มีการวัดผลที่เป็นผลลัพธ์ (Outcome) โดยจัดทำหลักฐานการกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นผลลัพธ์
                ประธาน                สอบถามที่ประชุมว่ามีความเห็นเป็นอย่างอื่นอีกหรือไม่ หากไม่มีขอมติที่ประชุม
                ที่ประชุม                รับทราบ
                ประธาน                กล่าวปิดการประชุม
                เลิกประชุมเวลา  15.00 น.
                                                                                                                               
ว่าที่ พ.ต.ต.         สุริยะ โพธิ์ทองนาค               เลขานุการ / บันทึก / รับมอบ

            
**********************************

TOP กลับไปสารบัญ

 

ตัวชี้วัดที่  3.1.22.2  : ระดับความสำเร็จของการวางแผนปรับปรุงองค์กรสู่การจัดการผลกระทบทางลบต่อองค์กรและสังคม

ผลการศึกษาและวิเคราะห์การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม
ของ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
วันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย.2552

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2 : ระดับความสำเร็จของการวางแผนปรับปรุงองค์กรสู่การจัดการผลกระทบทางลบต่อองค์กรและสังคม

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

ขอบเขตในการศึกษา
            1. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วย การกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548
            2. แผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และของตำรวจภูธรภาค 2
            3. ผลกระทบทางลบ จาก ผลการศึกษาผลผลิตและบริการ ผลลัพธ์และผลกระทบทางบวกและทางลบ ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.1
            4. การจัดการผลกระทบทางลบ (CSR)


ผลการศึกษาวิเคราะห์การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม
ของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2


กล่าวนำ
                        กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ เป็นหน่วยงานที่ไม่ได้สัมผัสกับประชาชนโดยตรง โดยตามภารกิจอำนาจและหน้าที่ที่ ตร. ได้กำหนดไว้ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วย การกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 สรุปภารกิจได้ดังนี้

  1. งานอำนวยการและธุรการ
  2. งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
  3. งานเจรจาต่อรอง
  4. งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
  5. งานควบคุมฝูงชน
  6. งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
  7. งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

                        จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติงานของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ จะเป็นไปในลักษณะกรณีที่เกิดเหตุการณ์วิกฤต หรือเป็นเหตุเฉพาะที่ใช้หน่วยพิเศษในการเข้าคลี่คลายและแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหน่วยงานจะไม่ได้สัมผัสกับประชาชนโดยตรง เช่น โรงพัก แต่เมื่อได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่แล้วจะต้องมีการปฏิบัติต่อประชาชนทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือความรู้สึกต่อประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งตามข้อมูลผลการศึกษาผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบจากการปฏิบัติหน้าที่ตามหน้างานทั้ง 7 หน้างานดังกล่าว สรุปได้ดังนี้

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

1.

งานอำนวยการและธุรการ

  1. ดำเนินการทางด้านงานธุรการ การประสานงานกับหน่วยเหนือ หน่วยข้างเคียง หน่วยงานนอกสังกัด ตร. ทั้งภาครัฐและเอกชน
  2. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ ที่จำเป็นแก่ประชาชน  หน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน         เช่น ภัยการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ บุคคลมีหมายจับการก่อความไม่สงบ การสังเกตและการปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิด การป้องกันตัวสำหรับสตรีและเยาวชน ฯ
  3. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ เช่น ข้อมูลบุคคลต้องสงสัยของอาชญากรข้ามชาติ บุคคลก่อความไม่สงบ คนร้ายมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล ฯ แล้วจัดทำเป็นเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ

ดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือการร้องเรียนจากประชาชน การรายงานผลการปฏิบัติ และการเก็บรวบรวมข้อมูลของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีการประสานงานที่ดีภายในหน่วยงาน ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีระบบมากขึ้น
          2. หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน เริ่มรู้จักและมีความเข้าใจในภารกิจของหน่วยมากขึ้น
                3. ประชาชนและหน่วยงานต่างๆได้รับข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้องของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษฯ
                4. มีช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูล เบาะแส เกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรง การจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย ฯ
ทางลบ
                1. จำนวนเจ้าหน้าที่ธุรการมีน้อย หากมีปริมาณงานการบริการหลักมีข้อปฏิบัติมาก อาจทำให้เกิดการล่าช้าในงานบางอย่างได้
                2. ความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างมากโดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร
อินเตอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์
                3. การเปิดช่องทางการแจ้งเบาะแสอาจเป็นช่องในการกลั่นแกล้งของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลแก่อีกฝ่ายหนึ่งได้

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. งานอำนวยการและธุรการมีระบบ การจัดเก็บข้อมูล มีการประสานงานที่ดีภายในและภายนอกหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน
                2. หน่วยงานภายในและภายนอกสังกัด หน่วยงานข้างเคียง ภาครัฐและเอกชน ให้ความเชื่อถือและรับทราบภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี
                3. การให้ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่องานเกี่ยวกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทำให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีช่องทางให้ข่าวสาร ร่วมมือกับหน่วยงานซึ่งเป็นงานเฉพาะทางได้เป็นอย่างดี
ทางลบ
                1. ข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ อาวุธร้ายแรง เมื่อประชาสัมพันธ์ออกไป อาจทำให้เกิดการตื่นตระหนกได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
                2. กลุ่มชุมนุมประท้วงทราบถึงขั้นตอนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่บางขั้นตอนโดยเฉพาะรู้ตัวผู้บังคับบัญชาชั้นสูงและอาจนำไปใช้ในการต่อรองกดดันฝ่ายบริหาร
                3. คนร้าย หรือผู้ก่อความไม่สงบ หรือผู้ก่อการร้าย อาจได้ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือกับเจ้าหน้าที่ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ(SWAT) และอาจทำการต่อต้านในการเข้าแก้ไขสถานการณ์ หรือการจับกุมได้

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

2.

งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อเตรียมพร้อมในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 หรือตามที่ ตร.มอบหมาย ทั้งที่มีหมายกำหนดการหรือเป็นการส่วนพระองค์
  2. ร่วมตรวจพื้นที่รับเสด็จและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในขบวนเสด็จรวมทั้งตำรวจพื้นที่ หน่วยราชการอื่น ๆ ที่ร่วมปฏิบัติ

                                -หน่วยงานในสังกัด ตร.และ ภ.2
                                -กรมสมุหราชองครักษ์ หรือฝ่ายทหาร 
                                -สำนักพระราชวัง    -หน่วยงานอื่นๆที่ร่วมปฏิบัติในการ ถปภ.

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีความพร้อมในการปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
          2. มีการประสานการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการถวายความปลอดภัย
ทางลบ
                1. จำนวนเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์มีน้อยและมีภารกิจเกี่ยวกับการช่วยเหลือตัวประกันและสนับสนุนพื้นที่ทางด้านยุทธวิธีด้วย หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในช่วงที่กำลังปฏิบัติภารกิจรับเสด็จอยู่ ในการช่วยเหลือตัวประกันจะมีเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ไม่เพียงพอ ซึ่งหัวหน้าชุดต้องปฏิบัติภารกิจ ถปภ.ด้วยตนเองทุกครั้ง
                2. หากมีขบวนเสด็จหลายพระองค์พร้อมๆกันในพื้นที่ กำลังจะไม่เพียงพอ รวมทั้งยานพาหนะที่ได้รับจ่ายแจกจาก นรป.ที่ใช้การ ถปภ.ของ กก.ปพ.ฯ มีเพียง 2 คัน อาจทำให้เกิดการล่าช้าในการถวายความปลอดภัยเพราะต้องนำรถที่อยู่ในส่วนอื่นมาใช้ในการรับเสด็จ
               
ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจและให้ความสำคัญ เพิ่มอัตรากำลังพลชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษหรือขออนุมัติจัดตั้งเจ้าหน้าที่ไว้เป็นอีกแผนกหนึ่งเป็นการเฉพาะ
                2. หน่วยงานต่างๆที่ร่วมปฏิบัติ มีความรู้ความเข้าใจในภารกิจของรถอาวุธฯ และร่วมประสานการปฏิบัติในกรณีหรือเมื่อมีเหตุได้เป็นอย่างดี ไม่สับสน
                3. ได้รับงบประมาณในการจัดสรรอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัวในการต่อต้านการถูกซุ่มโจมตี ได้รับยานพาหนะที่มีสมรรถนะสูงประจำชุดรถอาวุธไว้โดยเฉพาะ
                4. ได้รับงบประมาณในการฝึกซ้อมการปฏิบัติต่างๆที่ใช้การถวายความปลอดภัยทั้งหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชุด
ทางลบ
                1. ความไม่เข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติในขบวนเสด็จอาจทำให้เกิดเหตุร้ายได้
                2. การประสานงานภายในขบวนและท้องที่ใช้ข่ายการสื่อสารคนละช่องทางในการติดต่ออาจทำให้เกิดปัญหาในการแจ้งเหตุ หรือข่าวสารใด
                3. ภารกิจทุกครั้งส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น อาจเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ในขบวน และส่วนอื่น ๆ ขาดความกระตือรือล้นในการระมัดระวังเหตุ และอาจไม่เตรียมแผนเผชิญเหตุไว้แก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุ

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

3.

งานเจรจาต่อรอง

จัดเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองรองรับ กรณี คนร้ายจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย กลุ่มชุมนุมประท้วง เพื่อสนับสนับตำรวจพื้นที่ในการปฏิบัติและเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. มีเจ้าหน้าที่ชุดเจรจารองรับในเหตุเฉพาะ
                กรณี        - การจับตัวประกัน ฯ เพื่อประสานข้อมูลข้อเรียกร้อง จำนวนตัวประกัน คนร้าย อาคารสถานที่ ตำแหน่งที่อยู่ของตัวประกัน คนร้าย ลักษณะโครงสร้างอาคาร ให้แก่ชุดการข่าว และชุดช่วยเหลือตัวประกัน ได้เป็นอย่างดี
                                - แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง เพื่อให้ได้รับข้อมูลข้อเรียกร้องต่าง ๆ เพื่อเสนอชุดบริหารเหตุการณ์นำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
          2. ผู้ที่ทำงานหรือที่ร่วมในสถานการณ์นั้น เช่น ตำรวจท้องที่ ตำรวจอาสา ประชาชน กู้ภัย มูลนิธิ รู้บทบาทของตัวเอง ไม่ดำเนินการในส่วนที่เป็นหน้าที่ของทางราชการ ซึ่งจะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
ทางลบ
                1. ปัจจุบันยังไม่มีเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง เนื่องจากกำลังพลไม่เพียงพอ เมื่อได้รับการร้องขอทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติในส่วนชุดเจรจาได้
                2. เจ้าหน้าที่ต้องมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงในขั้นตอนการเจรจา ข้อมูล การตัดสินใจ การปฏิบัติของส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะชุดช่วยเหลือตัวประกันได้เป็นอย่างดี

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. หน่วยมีเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรอง ทำให้ประสานการปฏิบัติในทุกส่วนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีความรู้ความชำนาญในการต่อรอง การข่าว การลวงเอาข้อมูล การสังเกต เส้นวิกฤตที่ต้องดำเนินการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกัน
                2. มีการทำงานอย่างเป็นระบบ การกันสถานที่เกิดเหตุ และผู้ไม่มีส่วนที่เกี่ยวข้องให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้

ทางลบ
                1. การทำงานของชุดเจรจาเมื่อทำงานสำเร็จบ่อยครั้งอาจทำให้มองเห็นเป็นวีรบุรุษ ทำให้เกิดพฤติการณ์อยากเป็นวีรบุรุษ เข้าไปเป็นผู้เจรจาเสียเอง ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นได้            

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

4.

งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ที่ได้รับการฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 จาก บก.สอ.บช.ตชด.

                มีหน้าที่  สนับสนุนตำรวจท้องที่ทางด้านยุทธวิธีในการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ การวางแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุวิกฤติ การประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางยุทธวิธี

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. หน่วยงานมีชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ(SWAT) รองรับเหตุซึ่งต้องเป็นชุดเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกมาโดยเฉพาะทางด้านยุทธวิธีการปฏิบัติการพิเศษ ทั้งการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย จู่โจมล้อมจับคดีสำคัญและสามารถเรียกกำลังได้อย่างรวดเร็ว
          2. เป็นชุดรองรับการปฏิบัติการตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นชุดสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาเหตุวิกฤติ
                3. เป็นหน่วยสนับสนุนชุดปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน สายตรวจ ท้องที่ ฯ ทางด้านยุทธวิธีพิเศษ เมื่อประสบกับคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง หรือมีพฤติการณ์ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
                4. สามารถทำงานร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 อรินทราช 26 เช่น การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการวางแผนทางยุทธวิธี กรณีการก่อการร้ายสากล แผนผังโครงสร้างอาคาร เส้นทาง ตัวประกัน คนร้าย
                5. ความปลอดภัยของตัวประกัน และประชาชน และมีความเชื่อถือและถือเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการปฏิบัติการทางด้านยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์การคับขันและวิกฤติ
ทางลบ
                1. ความไม่เข้าใจของประชาชนที่เห็นว่าชุด SWAT เป็นชุดที่มีอาวุธร้ายแรงเกินความจำเป็น
                2. หน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่ทราบข้อมูลของการจัดตั้งชุด SWAT ขึ้นมาเพื่อรองรับเหตุวิกฤติตามกฎหมาย และผู้บังคับบัญชาไม่กล้าใช้ในการดำเนินกลยุทธ์
                3. หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชน ยังไม่ทราบขั้นตอนการปฏิบัติตามภารกิจของเจ้าหน้าที่ชุด SWAT อาจทำให้การปฏิบัติการบางสถานการณ์ไม่ลื่นไหล และต้องคอยตอบคำถามที่ไม่เข้าใจ
                4. ในคดีที่มีความละเอียดอ่อนต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะหาวิธีการพูดโจมตีหน่วยงานหรือรัฐบาลทำให้การปฏิบัติงานบางขั้นตอนเกิดการชะงักได้ 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. ชุดยุทธวิธีตำรวจพิเศษ (SWAT) เป็นเครื่องมือของผู้บริหารเหตุการณ์ในการปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันการก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย เมื่อเกิดเหตุที่ต้องใช้กำลังในการเข้าแก้ไขในทันที
                2. สามารถเสนอแนะแนวทาง แผนในการปฏิบัติในการช่วยเหลือตัวประกัน รวมทั้งขั้นตอนต่าง ๆ ในส่วนของชุดโจมตีและพลซุ่มยิง รวมทั้งแผนการรับตัวประกัน แผนการส่งคนร้าย
                3. ตำรวจท้องที่สามารถขอรับการสนับสนุนทางด้านยุทธวิธีเมื่อต้องประสบกับคนร้ายคดีสำคัญ อาวุธร้ายแรง หรือมีพฤติกรรมเหี้ยมโหดต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
                4. ตัวประกันปลอดภัย
                5. ได้รับการสนับสนุนในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ การฝึกหลักสูตรต่าง ๆ เพิ่มเติม
ทางลบ
                1. ประชาชนไม่เข้าใจเช่นการว่าเป็นการปฏิบัติการคล้ายทหารมากเกินไป
                2. หน่วยมีความจำเป็นต้องได้รับกำลังพลเพิ่ม
                3. ปัจจุบันอาวุธยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ มีสภาพเก่าไม่ทันสมัย อาจเกิดการเสียหายในการช่วยเหลือตัวประกันได้

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

5.

งานควบคุมฝูงชน

  1. จัดเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดอาวุธพิเศษ ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ48)
    1. เพื่อสนับสนุนตำรวจท้องที่ กองร้อย ปจ.ในสังกัด ภ.2 เมื่อได้รับการร้องขอ
    2. ประชาสัมพันธ์หรือปฏิบัติการทางจิตวิทยาให้ประชาชนทราบถึงสิทธิการชุมนุมประท้วงตามกรอบของกฎหมายและการปฏิบัติตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่เมื่อมีการละเมิดกฎหมาย

ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนทราบถึงระดับการใช้กำลัง

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. เป็นชุดสนับสนุนกองร้อย ปจ. ที่จัดไว้แล้ว
                2. การปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่และการปฏิบัติต่อประชาชนรวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
                3. การประสานงานการปฏิบัติและร่วมกับกองร้อย ปจ.อื่นๆ ได้อย่างไม่สับสน
                4. กลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำทราบถึงกรอบของกฎหมายและระดับการใช้กำลัง
ทางลบ
                1. ปัจจุบันกำลัง ปจ.ของหน่วย มีเพียง 1 หมวด เมื่อสนับสนุนกับท้องที่จะปฏิบัติการได้ไม่เต็มศักยภาพ
                2. ความขัดแย้งทางการเมืองและความคิดของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละฝ่ายเริ่มไม่เคารพกฎหมายและสายการบังคับบัญชาที่ยาวไม่มีผู้ใดกล้าตัดสินใจใช้กำลังแม้ว่าจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระดับการใช้กำลังแล้วก็ตาม

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. มีกำลัง ปจ.สนับสนุนกองร้อย ปจ. ปกติได้ เมื่อได้รับคำสั่ง
                2. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการได้ตามกรอบของกฎหมายและระดับการใช้กำลัง
                3. กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงอยู่ในกรอบของกฎหมาย
                4. เหตุการณ์สงบไม่มีความรุนแรง
ทางลบ
                1. เจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความเครียดเมื่อปฏิบัติหลายวันอาจทำให้ความอดทนต่อการยั่วยุของกลุ่มผู้ชุมนุมลดลงทำให้เกิดเหตุปะทะจนลุกลามกลายเป็นเหตุร้ายแรง
                2. การฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนบ่อย ๆ โดยขณะที่มีการชุมนุมประท้วง อาจทำให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง หรือประชาชนทั่วไป มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กำลังในการสลายการชุมนุม         

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

6.

งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

  1. จัดครูฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจ โดยจัดหลักสูตรและเตรียมแผนการฝึกตามระดับความสำคัญของยุทธวิธีให้ตามความเหมาะสม
    1. ฝึกอบรมทบทวนภายใน
    2. ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานภาครัฐนอกสังกัด ตร.

ฝึกอบรมให้แก่เอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป

 

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชน ได้รับการฝึกอบรมจากครูฝึกที่มีความรู้ความชำนาญรวมทั้งเป็นผู้ปฏิบัติงานจริงสามารถให้ความรู้ทักษะทางด้านการยิงปืน การป้องกันตัว ฯ ได้ดี
          2. สำหรับเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่รับการฝึกทางด้านยุทธวิธีสามารถลดความสูญเสีย และการความรอบคอบในการปฏิบัติงาน การวางแผนการปฏิบัติงานที่ดี
                3. สร้างภาพลักษณ์ให้กับภาคเอกชนและประชาชนได้เป็นอย่างดี
                4. เป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในภายนอกและระหว่างหน่วยงานได้เป็นอย่างดี
ทางลบ
                1. เจ้าหน้าที่ที่ไม่ชอบการฝึกจะทำให้เกิดบรรยากาศทั้งระหว่างการฝึกและหลังการฝึกไม่ดี
                2. ผู้ได้รับการฝึกอาจนำไปต่อยอดการฝึก เทคนิคต่าง ๆ ให้กับกลุ่มคนร้ายโดยคาดไม่ถึง

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. เป็นที่เชื่อของหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชน ประชาชนทั่วไป และให้ความสนใจที่จะเข้ามารับการฝึกอบรม
                2. เป็นภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงานได้ในระยะยาว
                3. มีการถ่ายเทคนิคและยุทธวิธีให้กับข้าราชการตำรวจอย่างต่อเนื่องจนเป็น รปจ. ทำให้ลดการสูญเสียของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานทางด้านการจับกุมคนร้าย การตรวจอาคาร ยานพาหนะ
ทางลบ
                1. ผู้ที่ผ่านการฝึกอาจนำไปถ่ายทอดให้กับคนร้ายโดยไม่รู้ตัว

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

7.

งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ พยานคดีสำคัญ ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ฯ
  2. จัดเจ้าหน้าที่สิบเวรยามรักษาความปลอดภัย กก.ปพ.ฯ , บ้านพักข้าราชการของผู้บังคับบัญชา

รักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานมหกรรม เมื่อได้รับการร้องขอ

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะสั้น
ทางบวก
                1. สร้างความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
                2. เป็นการคุ้มครองพยานสำคัญ ผู้ต้องหาสำคัญ ระหว่างเดินทาง ฝากขัง ถูกลอบทำร้าย หรือชิงตัว
                3. สร้างความปลอดภัยให้กับสถานที่สำคัญ หรือมีบุคคลสำคัญพักอาศัยอยู่
                4. สถานที่ราชการทั้งที่หน่วย และที่พักผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีความปลอดภัย
ทางลบ
                1. ผู้กว้างขวาง หรือผู้มีอิทธิพล นักการเมืองบางคนอาจใช้เป็นเครื่องมือในการคุ้มครอง
                2. จะสูญเสียกำลังไปในการคุ้มครองจากภารกิจหลักของตำรวจเมื่อต้องไปปฏิบัติเป็นระยะเวลานาน

ผลลัพธ์และผลกระทบในระยะยาว
ทางบวก
                1. เป็นเครื่องให้กับผู้บังคับบัญชาในการพิจารณาใช้เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญในลักษณะและสถานการณ์ต่างๆ ได้
                2. เป็นการคุ้มครองดูแลประชาชนที่มีความสำคัญได้
                3. เมื่อมีภารกิจสำคัญ ๆ สามารถสนับสนุนกำลังการ รปภ.บุคคลและสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางลบ
                1. อาจเป็นเครื่องมือของผู้มีอิทธิพล นักการเมืองบางคน หรือนักธุรกิจบางคน อาศัยช่องทางขอเจ้าหน้าที่ไปทำการคุ้มครองให้
                2. กำลังเจ้าหน้าที่ในงานปกติจะหายไปเพราะระยะเวลาในการคุ้มครองแล้วแต่ความเห็นชอบจากผู้บังคับชา (ตามขั้นตอน)
          3. สร้างนิสัยที่ไม่ดีให้แก่ตำรวจผู้ปฏิบัติ เพราะมีความรู้สึกว่าเป็นงานสบาย ไม่ต้องมาทำหน้าที่ปฏิบัติงานตามสายงานปกติ

                จากตารางข้างต้น สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์สรุปการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษได้ดังนี้

  • งานอำนวยการและธุรการ
    • จัดระบบงานธุรการให้เป็นระบบ รวดเร็ว มีระบบสืบหาข้อมูล
    • อบรมพัฒนา หรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน
    • ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับหน่วยงาน ภารกิจ ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ โดยพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ฯ และข่าวที่ไม่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชนส่วนใหญ่ หรือข่าวที่ก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิด
    • เปิดช่องทางรับข้อมูลการแจ้งเบาะแส เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทางอีเมลล์ ทางจดหมาย หรือทางโทรศัพท์ ฯ
    • รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ตรวจสอบ รายงานผล(ทั้ง ผู้บังคับบัญชา และประชาชนทราบ) และจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ
  • งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
  • การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ถวายความปลอดภัย
  • ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์
    • ประชาชนที่ใช้รถหลงเข้ามาในเส้นทางเสด็จหรือกำลังจะออกมาเทียบขบวนเสด็จ
      • ใช้ยุทธวิธีการสกัดกั้น โดยคำนึงถึง
  • ความปลอดภัยของรถพระที่นั่งและรถในขบวนเสด็จ
  • ความปลอดภัยประชาชนที่หลงเข้ามาในเส้นทางเสด็จ
  • การใช้สัญญาณแจ้งเตือน สัญญาณเสียง ไมโครโฟน และท่าทางโดยความละมุนละม่อม แต่การปฏิบัติเป็นไปโดยปลอดภัย
    • ระหว่างการปฏิบัติพระราชกรณียกิจณที่หมาย
      • การประชาสัมพันธ์การนั่ง การห้ามถ่ายรูป การแต่งกาย การอยู่ในที่จัดไว้สำหรับการรับเสด็จ การเดินตัดขบวน ฯ
      • ใช้วาจาที่สุภาพ และ เป็นที่เข้าใจของประชาชน
  • งานเจรจาต่อรอง
    • การใช้หลักการเจรจาตามขั้นตอน
    • การใช้กิริยาวาจาที่สุภาพต่อประชาชนทั้งที่เกี่ยวข้องหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกจากที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ที่จำกัดไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
    • การปฏิบัติต่อคนร้าย ตัวประกัน กลุ่มชุมนุมประท้วง หรือแกนนำ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม และมีความความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุหรือพฤติการณ์ต่าง ๆ ของคนร้าย
    • การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าทีต่างหน่วย หรือองค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ ต่าง ๆ เป็นไปด้วยดี สร้างบรรยากาศการร่วมงานที่ดี
    • การปฏิบัติทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ใช้หลักจิตวิทยา และการทำงานที่เป็นขั้นตอนตามหลักการเจรจาต่อรอง
  • งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
  • ระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุ
    • การใช้เส้นทางโดยความเร่งด่วน มีการใช้สัญญาณไฟวับวาบ สัญญาณเสียงเตือน และไมโครโฟน แจ้งขอทาง โดยคำนึงถึงความปลอดภัย คำพูด และวิธีการปฏิบัติที่ละมุนละม่อม
  • ระหว่างการเข้าปฏิบัติการ เมื่อพบประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ให้ออกจากที่เกิดเหตุ
    • การวางแผนและการเข้าปฏิบัติการนอกจากคำนึงถึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันแล้วให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนใกล้ที่เกิดเหตุ เช่น วิถีกระสุน ขนาดกระสุนที่ใช้ยิง อาวุธที่ใช้
    • การปฏิบัติต่อตัวประกัน คนร้าย เป็นไปตามยุทธวิธี
    • การฟื้นฟูที่เกิดเหตุเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
  • งานควบคุมฝูงชน
    • การวางแผนการปฏิบัติในการควบคุมฝูงชนที่ดี
    • จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) โดยแบ่งแยกหน้าที่ให้ชัดเจน ผบ.เหตุการณ์คือใคร เจ้าหน้าที่ชุดเจรจารับฟังข้อเรียกร้องจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม
    • การประชาสัมพันธ์โดยการประกาศเกี่ยวกับการชุมนุมโดยสงบและที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
    • การประกาศแจ้งเกี่ยวกับขั้นระดับการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชนเพื่อให้ทุกฝ่ายทราบและเป็นที่เข้าใจ
    • การปฏิบัติการทางจิตวิทยา ไม่กดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่เกิดความเครียดและสร้างบรรยากาศการชุมประท้วงให้เป็นไปโดยสงบ
    • การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น การจัดการจราจร การประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
    • การปฏิบัติขณะมีการชุมนุม และภายหลังมีการชุมนุม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
      • ทั้งในยามปกติ และ การใช้กำลังในการสลายการชุมนุม
    • การฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนและประชาสัมพันธ์ให้ตัวแทนฝ่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ได้รับรู้ถึงการปฏิบัติของกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติตามระดับการใช้กำลังที่เป็นไปตามกฎหมาย
    • การฝึกใช้อาวุธ โล่ กระบอง การยิงกระสุนแก๊สน้ำตา ที่ถูกต้องให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
  • งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
    • วัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่หน่วย
    • จัดทำโครงการหรือแผนการฝึกให้การภาคเอกชนและประชาชน เกี่ยวกับการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น ธนาคาร ร้านค้าทอง ปั๊มน้ำมัน ฯ ประชาชนทั่วไป 
      • การยิงปืนขั้นพื้นฐาน กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
      • ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวสำหรับสุภาพสตรี และเยาวชน
      • การรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ บ้านพัก
    • จัดทำโครงการของบประมาณสร้างสนามยิงปืนทางยุทธวิธีให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนทั่วไป
    • จัดสถานที่สำหรับการฝึกและประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ภายในหน่วย
  • งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่
    • เป็นการปฏิบัติกฎหมายคุ้มครองพยาน
    • การรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญระดับประเทศ ระดับชาติ เพื่อความเชื่อมั่นแก่หน่วยงาน และประเทศ
    • การรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายแก่หน่วยงานและที่ประชาชนต้องมาติดต่อใช้บริการ
    • เป็นการคุ้มครองพยานสำคัญ ผู้ต้องหาสำคัญ ให้สามารถดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมจนจบ
    • ในงานมหกรรมใหญ่ ๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท การทำร้ายชีวิตร่างกาย การประทุษร้ายต่อทรัพย์ ให้อยู่ในการควบคุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
    • การปฏิบัติต่าง ๆ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน


                                        ว่าที่   พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ

 

เอกสารการฝึกอบรมการจัดการผลกระทบทางลบต่อสังคม (CSR)
และ
การจัดทำแผนพัฒนาองค์กร
ซีเอสอาร์คืออะไร


                ซี เอสอาร์ เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า Corporate Social Responsibility (CSR) หรือ บรรษัทบริบาล หมายถึง การดำเนินกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับใกล้และไกล ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรหรือทรัพยากรจากภายนอกองค์กร ในอันที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข
            หากพิจารณาแยกเป็นรายคำศัพท์ คำว่า Corporate มุ่งหมายถึงกิจการที่ดำเนินไปเพื่อแสวงหาผลกำไร ส่วนคำว่า Social ในที่นี้ มุ่งหมายถึงกลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์กันหรือมีวิถีร่วมกันทั้งโดยธรรมชาติ หรือโดยเจตนา รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รายรอบประกอบ และคำว่า Responsibility มุ่งหมายถึงการยอมรับทั้งผลที่ไม่ดีและผลที่ดีในกิจการที่ได้ทำลงไปหรือที่ อยู่ในความดูแลของกิจการนั้นๆ ตลอดจนการรับภาระหรือเป็นธุระดำเนินการป้องกันและปรับปรุงแก้ไขผลที่ไม่ดี รวมถึงการสร้างสรรค์และบำรุงรักษาผลที่ดีซึ่งส่งกระทบไปยังผู้มีส่วนได้เสีย กลุ่มต่างๆ
ลำดับชั้นของผู้มีส่วนได้เสียในระดับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับซีเอสอาร์
                คำ ว่า กิจกรรม ในความหมายข้างต้น หมายรวมถึง การคิด การพูด และการกระทำ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การวางแผน การตัดสินใจ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการ และการดำเนินงานขององค์กร
            สังคม ในความหมายของความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ จะมุ่งไปที่ผู้มีส่วนได้เสียนอกองค์กร ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ สังคมใกล้ และสังคมไกล

  • สังคม ใกล้ คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับองค์กรโดยตรง ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้า ครอบครัวของพนักงาน ชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ ซึ่งรวมถึงสิ่งแวดล้อมหรือระบบนิเวศ
  • สังคมไกล คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรโดยอ้อม ได้แก่ คู่แข่งขันทางธุรกิจ ประชาชนทั่วไป เป็นต้น

            ใน ระดับของลูกค้า ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เน้นคุณค่ามากกว่ามูลค่า ความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภค การให้ข้อมูลขององค์กรและตัวผลิตภัณฑ์อย่างเพียงพอและอย่างถูกต้องเที่ยงตรง มีการให้บริการลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้น
            ในระดับของคู่ค้า ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การแบ่งปันหรือการใช้ทรัพยากรร่วมกันหรือการรวมกลุ่มในแนวดิ่งตามสายอุปทาน ความรอบคอบระมัดระวังในการผสานประโยชน์อย่างเป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบต่อคู่ค้า เป็นต้น
            ในระดับของชุมชนและสภาพแวดล้อม ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การสงเคราะห์เกื้อกูลชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ การส่งเสริมแรงงานท้องถิ่นให้มีโอกาสในตำแหน่งงานต่างๆ ในองค์กร การสนับสนุนแนวทางการระแวดระวังในการดำเนินงานที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ และการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข เป็นต้น
            ใน ระดับของประชาสังคม ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มหรือเครือข่ายอื่นๆ ในการพัฒนาสังคม การตรวจตราดูแลมิให้กิจการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน การรับฟังข้อมูลหรือทำประชาพิจารณ์ต่อการดำเนินกิจการที่ส่งผลกระทบต่อสังคม โดยรวม และการทำหน้าที่ในการเสียภาษีอากรให้รัฐอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้น
            ใน ระดับของคู่แข่งขันทางธุรกิจ ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การดูแลกิจการมิให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งขันด้วยวิธีการทุ่มตลาด การดำเนินงานในทางต่อต้านการทุจริต รวมทั้งการกรรโชก และการให้สินบนในทุกรูปแบบ เป็นต้น

ความสำคัญของซีเอสอาร์
                การเจริญเติบโต (Growth) ของธุรกิจหนึ่งๆ มาจากการพัฒนาองค์กรให้มีความ “เก่ง” อยู่ในตัว ในขณะที่การพัฒนาองค์กรให้มีความ “ดี” อยู่ในตัว จะก่อให้เกิดความยั่งยืน (Sustainability) ของธุรกิจนั้นๆ
            แนว คิดและทฤษฎีทางธุรกิจที่ได้รับการปลูกฝังและถ่ายทอดสู่องค์กรโดยส่วนใหญ่ ล้วนมุ่งไปที่การพัฒนาให้เป็นองค์กรที่ “เก่ง” ตัวอย่างทฤษฎีที่รู้จักกันดี ได้แก่ SWOT Analysis (Ansoff 1965) สำหรับการกำหนดตำแหน่งและการสร้างความสำเร็จขององค์กร หรือ Boston Matrix (BCG 1970) สำหรับการกำหนดความสำคัญและการสร้างความสำเร็จในผลิตภัณฑ์ หรือ Five Forces (Porter 1980) และ Diamond Model (Porter 1990) สำหรับการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เป็นต้น
            สำหรับแนวคิดใน เรื่องซีเอสอาร์ จะมุ่งไปที่การสร้างให้องค์กรมีความ “ดี” ที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนของกิจการ เป็นแนวคิดที่มีรากฐานมาจากหลักคุณธรรมทางศาสนา ซีเอสอาร์จึงมิใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่เพิ่งได้มีการบัญญัติคำนี้ขึ้นใช้ในวงการธุรกิจเมื่อไม่กี่สิบปีที่ ผ่านมานี้เอง
                สำหรับในประเทศไทย แนวคิดเรื่องซีเอสอาร์ได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับการสถาปนาธุรกิจในสังคมไทยมา เป็นเวลายาวนาน ในรูปของการทำบุญ การบริจาคเพื่อการกุศล หรือการอาสาช่วยเหลืองานส่วนรวมที่เรียกว่า “การลงแขก” เป็นต้น เพียงแต่คนไทยยังมิได้เรียกกิจกรรมเหล่านี้ด้วยคำว่าซีเอสอาร์
                อย่างไรก็ดี กระแสซีเอสอาร์ในเมืองไทย ก็ได้ถูกจุดประกายขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2549 และได้ถูกบรรจุเป็นแนวปฏิบัติที่ผนวกเข้ากับการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือไปจากการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบที่อยู่นอกกระบวนการ ทางธุรกิจ เช่น การบริจาค หรือการอาสาช่วยเหลือสังคมเช่นที่ผ่านมา

จำพวกของซีเอสอาร์
            การ ดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ มิได้จำกัดว่ากิจการที่กล่าวถึงจะต้องเป็นองค์กรหรือหน่วยงานที่อยู่ในภาค ธุรกิจเท่านั้น ในอดีตที่ผ่านมา ภาครัฐเองก็ได้เคยตราพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดี ซึ่งทำให้ส่วนราชการต่างๆ ต้องพัฒนาการปฏิบัติราชการโดยใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเพื่อให้ เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน
            ดังนั้น ต้องถือว่าส่วนราชการต่างๆ ก็ดี มีพันธกิจหลักในการบริหารกิจการบ้านเมืองด้วยความรับผิดชอบเป็นที่ตั้งอยู่ แล้ว ทั้งยังเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการสาธารณะแก่ ประชาชนโดยไม่แสวงหาผลกำไร ซีเอสอาร์ในภาครัฐจึงมิใช่เรื่องใหม่หรือหลักการบริหารบ้านเมืองแนวใหม่แต่ ประการใด แต่เป็นเรื่องที่ข้าราชการทุกคนต้องตระหนักและสำนึกได้เองว่าตนเองมีบทบาท และความรับผิดชอบต่อสังคมในการปฏิบัติหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
            ฉะนั้น เรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibility: SR) สำหรับหน่วยงานของรัฐ จึงถือเป็นบทบาทขั้นพื้นฐานที่พึงมีนับตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้งหน่วยงาน หน่วยงานของรัฐถือเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในงานดังกล่าว อีกทั้งสมควรที่จะดำรงบทบาทเป็นเจ้าภาพงานให้แก่ภาคอื่นๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานอีกด้วย
                เมื่อพิจารณาซีเอสอาร์ตาม บทบาทและความเกี่ยวข้องของหน่วยงาน จะสามารถจำแนกออกได้เป็น 3 จำพวก (division) โดยจำพวกแรกเป็น CSR-after-process ที่มักใช้คำในภาษาไทยว่า "กิจกรรมเพื่อสังคม" คือ การดำเนินกิจกรรม (activities) ของหน่วยงาน ซึ่งโดยมากเป็นองค์กรธุรกิจที่แสวงหากำไร เพื่อสร้างให้เกิดประโยชน์แก่สังคมในด้านต่างๆ โดยกิจกรรมที่ดำเนินการนั้นมักแยกต่างหากจากการดำเนินธุรกิจที่เป็นกระบวน การ (process) หลักของกิจการและเกิดขึ้นภายหลัง เช่น การแก้ไขเยียวยาชุมชนที่ได้รับผลกระทบทางมลพิษจากการประกอบการ การแจกจ่ายสิ่งของช่วยบรรเทาสาธารณภัย การเป็นอาสาสมัครช่วยบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ซึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมเหล่านี้มักเป็นกิจกรรมที่อยู่นอกเหนือเวลาทำงานตาม ปกติ
                จำพวกที่สองเป็น CSR-in-process ซึ่งปัจจุบันมักเรียกกันว่า "ธุรกิจเพื่อสังคม" คือ การดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมที่อยู่ในกระบวนการทำงานหลักของกิจการ หรือเป็นการทำธุรกิจที่หากำไรอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น การป้องกันหรือกำจัดมลพิษในกระบวนการผลิตเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชน การผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานตามข้อกำหนดในฉลากผลิตภัณฑ์ การเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องครบถ้วนต่อผู้บริโภค การชดเชยความเสียหายให้แก่ลูกค้าที่เกิดจากความผิดพลาดและความบกพร่องของ พนักงาน ซึ่งการดำเนินความรับผิดชอบเหล่านี้ถือเป็นกิจกรรมที่อยู่ในเวลาทำงานปกติ ของกิจการ
                จำพวกที่สามเป็น CSR-as-process ซึ่งอาจเรียกว่าเป็น "กิจการเพื่อสังคม" เพื่อให้แตกต่างจากสองจำพวกข้างต้นที่เป็นบทบาทขององค์กรธุรกิจโดยตรง กิจการในจำพวกที่สามนี้ มักเป็นองค์กรที่ดำเนินงานโดยไม่แสวงหากำไรให้แก่ตนเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อยังประโยชน์ให้แก่สังคมในทุกกระบวนการของ กิจการ ตัวอย่างของกิจการที่อาจจัดอยู่ในข่ายนี้ ได้แก่ มูลนิธิ องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรประชาชน และส่วนราชการต่างๆ
                อย่างไรก็ดี กิจการเพื่อสังคมในความหมายเต็มของ CSR-as-process นั้น มีข้อแตกต่างจากหน่วยงานที่เรียกตัวเองว่า องค์กรที่ไม่มีวัตถุประสงค์หากำไร (non-profit organization) ตรงที่หน่วยงานที่ไม่หากำไร อาจอยู่ในสภาพที่ไม่มีกำไรให้ทั้งแก่ตนเองและแก่สังคม อันเนื่องมาจากการขาดกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
            แต่สถานะของกิจการเพื่อสังคมนั้น เกิดจากการผสมผสานอุดมการณ์ในแบบนักพัฒนาสังคมเข้ากับการบริหารจัดการในแบบผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นการผนวกจุดแข็งระหว่างแผนงานของภาคประชาสังคมกับกระบวนการที่มีประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ในอันที่จะสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคมโดยรวม
            ขณะ เดียวกันกิจการก็สามารถอยู่รอดได้ด้วยการพึ่งพาการดำเนินงานของตนเอง แทนการสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอกหรือได้รับการอุดหนุนจากภาษีของประชาชน เรียกว่า เป็นองค์กรที่หากำไรให้แก่สังคม (social profit organization) โดยที่เจ้าของกิจการเหล่านี้ มักเรียกตัวเองว่า เป็นผู้ประกอบการทางสังคม (social entrepreneur)
            การ ที่องค์กรที่ไม่มีวัตถุประสงค์หากำไรในรูปแบบเดิม อาศัยทุนสนับสนุนจากการบริจาคก็ดี หรืออาศัยทุนอุดหนุนจากเม็ดเงินภาษีก็ดี ถือว่าเป็นการใช้ทรัพยากรจากสังคมทางหนึ่ง ซึ่งหากดำเนินงานโดยขาดประสิทธิภาพหรือขาดความรับผิดชอบแล้ว ยิ่งต้องได้รับการตำหนิมากกว่าองค์กรที่หากำไรให้แก่ตนเองเป็นเท่าตัว เพราะนอกจากจะเป็นการถือครองทรัพยากรทางสังคมโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ สังคมแล้ว ยังเท่ากับเป็นการปิดโอกาสองค์กรที่ไม่หากำไรแห่งอื่นๆ ในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรเหล่านี้เพื่อทำประโยชน์ให้แก่สังคมด้วย ถือเป็นค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ที่คนในสังคมต้องร่วมกันจ่ายโดยที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดกลับคืนมาเลย
ระดับชั้นของซีเอสอาร์
            องค์กร ธุรกิจหลายแห่งในปัจจุบัน ได้นำเรื่องซีเอสอาร์มาเป็นประเด็นสื่อสารทางการตลาด บางองค์กรขยายผลเพื่อใช้ซีเอสอาร์เป็นรูปแบบในการกีดกันการแข่งขันการค้า จนทำให้ซีเอสอาร์กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้สนองประโยชน์ทางธุรกิจ แทนที่จะใช้เพื่อเจตนารมณ์ของการมีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง การดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ของกิจการในทุกวันนี้ จึงมีทั้งที่เกิดขึ้นโดยความเต็มใจและเกิดขึ้นจากความจำเป็นทางธุรกิจ
                การ ดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ขององค์กรธุรกิจที่ประกอบด้วยความสำนึกรับผิดชอบต่อ สังคม ก็ยังมีข้อถกเถียงเพิ่มเติมอีกว่า ควรเป็นการดำเนินตามหน้าที่ ตามกฎหมาย ที่ไม่สร้างให้เกิดความเดือดร้อนแก่สังคมก็เพียงพอแล้ว หรือว่าต้องเกิดขึ้นจากการอาสาหรือสมัครใจยินดีในการดำเนินกิจกรรมดูแลรับ ผิดชอบสังคม ซึ่งอยู่เหนือการปฏิบัติตามหน้าที่หรือตามกฎหมายเท่านั้น
                การ ดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ไม่ว่าจะเกิดจากการปฏิบัติตามความจำเป็นหรือตามความ สมัครใจ ถือเป็นการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งสองกรณี แตกต่างกันที่ระดับความเข้มข้นของการดำเนินกิจกรรมและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจาก กิจกรรมนั้นๆ
                กิจกรรมซีเอสอาร์ที่เกิดจากความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ หรือตามระเบียบข้อบังคับทางกฎหมาย จัดอยู่ในชั้น (class) ของ ซีเอสอาร์ระดับพื้นฐาน ขณะที่ กิจกรรมซีเอสอาร์ที่เกิดจากการอาสาหรือสมัครใจยินดีในการดำเนินกิจกรรมซีเอส อาร์นั้นด้วยตัวเอง มิใช่เกิดจากความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามหน้าที่หรือตามกฎหมาย จัดอยู่ในชั้นของ ซีเอสอาร์ระดับก้าวหน้า
                กิจกรรมซีเอสอาร์ ยังสามารถแบ่งออกตามทรัพยากรที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรม หากเป็นการดำเนินกิจกรรมโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ภายในองค์กรเป็นหลัก จะจัดอยู่ในตระกูล (order) ที่เป็น Corporate-driven CSR เช่น การที่องค์กรบริจาคเงินที่ได้จากกำไรในกิจการ หรือบริจาคสินค้าและบริการของบริษัทเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ถือเป็นการเสียสละทรัพยากรที่เป็นสิ่งของหรือเป็นการลงเงินอย่างหนึ่ง หรือการที่องค์กรนำพนักงานลงพื้นที่เพื่อเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถือเป็นการเสียสละทรัพยากรด้านเวลา หรือเป็นการลงแรงอย่างหนึ่ง
                หากเป็นการดำเนินกิจกรรมโดยใช้ทรัพยากรนอกองค์กรเป็นหลัก จะจัดอยู่ในตระกูลที่เป็น Social-driven CSR เช่น การเชิญชวนให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการของบริษัทในช่วงเวลาการรณรงค์โดย บริจาครายได้จากการขายสินค้าและบริการส่วนหนึ่งต่อทุกๆ การซื้อแต่ละครั้ง ให้แก่หน่วยงานหรือมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ถือเป็นการระดมเงินบริจาคจากการซื้อของลูกค้า และมอบหมายให้ผู้อื่นที่มิใช่พนักงานในองค์กร ลงแรงช่วยเหลือในพื้นที่
ชนิดของกิจกรรมซีเอสอาร์
                ศ. ฟิลิป คอตเลอร์ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น และแนนซี่ ลี อาจารย์สมทบแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน และมหาวิทยาลัยซีแอตเติ้ล ได้จำแนกซีเอสอาร์ไว้เป็น 6 ชนิด (type) กิจกรรม* ได้แก่
                1. การส่งเสริมการรับรู้ประเด็นปัญหาทางสังคม (Cause Promotion) เป็นการจัดหาเงินทุน วัสดุสิ่งของ หรือทรัพยากรอื่นขององค์กร เพื่อขยายการรับรู้และความห่วงใยต่อประเด็นปัญหาทางสังคมนั้น ตลอดจนสนับสนุนการระดมทุน การมีส่วนร่วม หรือการเฟ้นหาอาสาสมัครเพื่อการดังกล่าว องค์กรธุรกิจอาจริเริ่มและบริหารงานส่งเสริมนั้นด้วยตนเอง หรือร่วมมือกับองค์กรหนึ่งองค์กรใด หรือกับหลายๆ องค์กรก็ได้
                2. การตลาดที่เกี่ยวโยงกับประเด็นทางสังคม (Cause-Related Marketing) เป็นการอุดหนุนหรือการบริจาครายได้ส่วนหนึ่งจากการขายผลิตภัณฑ์เพื่อช่วย เหลือหรือร่วมแก้ไขประเด็นปัญหาทางสังคมจำเพาะหนึ่งๆ ซึ่งมักมีช่วงเวลาที่จำกัดแน่นอน หรือดำเนินการแบบจำเพาะผลิตภัณฑ์ หรือให้แก่การกุศลที่ระบุไว้เท่านั้น กิจกรรมซีเอสอาร์ชนิดนี้ องค์กรธุรกิจมักร่วมมือกับองค์กรที่ไม่มีวัตถุประสงค์หากำไรเพื่อสร้าง สัมพันธภาพในประโยชน์ร่วมกัน ด้วยวิธีการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ เพื่อนำเงินรายได้ไปสนับสนุนกิจกรรมการกุศลนั้นๆ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสให้แก่ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการช่วย เหลือการกุศลผ่านทางการซื้อผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่นใดเพิ่มเติม
                3. การตลาดเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาสังคม (Corporate Social Marketing) เป็นการสนับสนุนการพัฒนาหรือการทำให้เกิดผลจากการรณรงค์เพื่อเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมในด้านสาธารณสุข ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้านสุขภาวะ ความแตกต่างสำคัญระหว่างการตลาดเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาสังคมกับการส่งเสริมการ รับรู้ประเด็นปัญหาทางสังคม คือ การตลาดเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาสังคมจะเน้นที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Behavior Change) เป็นหลัก ในขณะที่การส่งเสริมการรับรู้ประเด็นปัญหาทางสังคมจะเน้นที่การสร้างความตระหนัก (Awareness) ตลอดจนการสนับสนุนทรัพยากรด้านทุนและอาสาสมัครเพื่อให้รับรู้ถึงประเด็นปัญหาดังกล่าว
                4. การบริจาคเพื่อการกุศล (Corporate Philanthropy) เป็นการช่วยเหลือไปที่ประเด็นปัญหาทางสังคมโดยตรง ในรูปของการบริจาคเงินหรือวัตถุสิ่งของ เป็นกิจกรรมซีเอสอาร์ที่พบเห็นในแทบทุกองค์กรธุรกิจ และโดยมากมักจะเป็นไปตามกระแสความต้องการจากภายนอกหรือมีผู้เสนอให้ทำ มากกว่าจะเกิดจากการวางแผนหรือออกแบบกิจกรรมจากภายในองค์กรเอง ทำให้ไม่เกิดการเชื่อมโยงเข้ากับเป้าหมายหรือพันธกิจขององค์กรเท่าใดนัก
                5. การอาสาช่วยเหลือชุมชน (Community Volunteering) เป็นการสนับสนุนหรือจูงใจให้พนักงาน คู่ค้าร่วมสละเวลาและแรงงานในการทำงานให้แก่ชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่และเพื่อ ตอบสนองต่อประเด็นปัญหาทางสังคมที่องค์กรให้ความสนใจหรือห่วงใย องค์กรธุรกิจอาจเป็นผู้ดำเนินการเองโดยลำพัง หรือร่วมมือกับองค์กรหนึ่งองค์กรใด และอาจเป็นผู้กำหนดกิจกรรมอาสาดังกล่าวนั้นเอง หรือให้พนักงานเป็นผู้คัดเลือกกิจกรรมแล้วนำเสนอต่อองค์กรเพื่อพิจารณาให้ การสนับสนุน โดยที่พนักงานสามารถได้รับการชดเชยในรูปของวันหยุดหรือวันลาเพิ่มเติม
                6. การประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Business Practices) เป็นการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจอย่างพินิจพิเคราะห์ทั้งในเชิงป้องกันด้วยการ หลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม หรือในเชิงร่วมกันแก้ไขด้วยการช่วยเหลือเยียวยาปัญหาทางสังคมนั้นๆ ด้วยกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อการยกระดับสุขภาวะของชุมชนและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม โดยที่องค์กรธุรกิจสามารถที่จะดำเนินการเอง หรือเลือกที่จะร่วมมือกับพันธมิตรภายนอกก็ได้
                การจำแนกกิจกรรมซีเอส อาร์ข้างต้น หากพิจารณาตามตระกูล (order) ของซีเอสอาร์จะพบว่ากิจกรรม 3 ชนิดแรก เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางการพูด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเป็นการสื่อสารการตลาดที่เข้าข่ายการดำเนินกิจกรรม โดยใช้ทรัพยากรนอกองค์กรเป็นหลัก (Social-driven CSR) ส่วนกิจกรรม 3 ชนิดหลัง เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางการกระทำ หรือเป็นการดำเนินกิจกรรมขององค์กรโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ภายในองค์กรเป็น หลัก (Corporate-driven CSR)
            และหากพิจารณาโดยยึดที่ตัวกระบวนการทาง ธุรกิจ (business process) ซีเอสอาร์ในตระกูล Corporate-driven CSR ยังสามารถจำแนกออกเป็นซีเอสอาร์จำพวก (division) ที่อยู่ในกระบวนการทางธุรกิจ (CSR in process) กับซีเอสอาร์จำพวกที่อยู่นอกกระบวนการทางธุรกิจ หรือเกิดขึ้นภายหลังโดยแยกต่างหากจากกระบวนการทางธุรกิจ (CSR after process)

การพัฒนาซีเอสอาร์ในองค์กร
            กิจกรรม ซีเอสอาร์ มิได้สิ้นสุดที่การบริจาคเงินหรือบริจาคสิ่งของให้แก่หน่วยงานสังคม สงเคราะห์หรือมูลนิธิไปดำเนินการ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาไปสู่องค์กรที่ “ดี”
            องค์กรที่ สามารถบริจาคเงินหรือสิ่งของเพื่อการสังคมสงเคราะห์ได้นั้น แสดงว่าเป็นองค์กรที่เจริญเติบโตในธุรกิจและมีความ “เก่ง” อยู่ในตัวแล้ว ประเด็นที่สำคัญ คือ ทำอย่างไรจึงจะใช้ความ “เก่ง” ในการดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ หรือถ่ายทอดความ “เก่ง” นั้นให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม ที่แต่เดิมได้รับเป็นเงินหรือสิ่งของ
                กิจกรรม ซีเอสอาร์ที่เกี่ยวข้องกับการให้เงินหรือสิ่งของ อาจมิใช่การแก้ปัญหาระยะยาวให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม แต่การพัฒนาทักษะและศักยภาพให้แก่พวกเขาเหล่านั้นต่างหากที่น่าจะเป็นคำตอบ และการพัฒนาในเรื่องดังกล่าว ก็สามารถใช้ความ “เก่ง” ที่มีอยู่ในธุรกิจให้เกิดประโยชน์ได้
                กิจกรรมทางซีเอสอาร์ ประกอบทั้ง การคิด การพูด และการกระทำ และเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตขององค์กรที่ได้ผ่านวัยเด็ก วัยรุ่น และเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะช่วยเหลือและมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่อาศัยอยู่ วิธีการพัฒนาซีเอสอาร์ในองค์กรให้ประสบผลสำเร็จ จึงควรผนวกช่วงแห่งการเจริญเติบโตเข้ากับองค์ประกอบของซีเอสอาร์ นั่นคือ คิดแบบเด็ก ทำแบบวัยรุ่น และพูดแบบผู้ใหญ่”
                การออกแบบและพัฒนากิจกรรมซีเอสอาร์ เป็นงานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ และความจริงใจ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่มีอยู่ในวัยเด็ก
                การดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ จำเป็นที่องค์กรควรเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้หรือถ่ายทอดความ “เก่ง” ด้วยความมุ่งมั่นและพละกำลัง ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่มีอยู่ในวัยรุ่น
                การติดตามและประเมินผลกิจกรรมซีเอสอาร์ เพื่อนำไปสู่การสื่อสารทั้งกับคนในองค์กรและสังคมภายนอก เป็นบทบาทที่ต้องอาศัยความรอบคอบระมัดระวัง และเป็นบทบาทของผู้ใหญ่ ในการถ่ายทอดข้อมูลให้มีความถูกต้องแม่นยำ และมีผลลัพธ์เชิงบวกกลับมาสู่องค์กรในที่สุด
                เงื่อนไขสำคัญในการ พัฒนาซีเอสอาร์ในองค์กรให้ประสบผลสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในสังคมไปพร้อมๆ กัน คือ การเชื่อมร้อยกิจกรรมทางธุรกิจให้มีส่วนประสมของความรับผิดชอบทางสังคมอย่าง เป็นเนื้อเดียวกัน
                สถาบันไทยพัฒน์ จะทำหน้าที่ในการการออกแบบและพัฒนากิจกรรมซีเอสอาร์ คัดเลือกหน่วยงานร่วมดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ให้แก่องค์กร ติดตามและประเมินผลกิจกรรมซีเอสอาร์ เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ขององค์กรธุรกิจสำเร็จประโยชน์เต็มตาม ทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมนั้นๆ

Responsive CSR
            รูป แบบของ CSR ในขั้นแรก ตามที่ไมเคิล อี พอร์เตอร์ ได้ระบุไว้ในบทความเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่าง CSR กับความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Porter and Kramer, 2006) คือ Responsive CSR ซึ่งประกอบด้วย 2 องค์ประกอบ ได้แก่ การปฏิบัติตัวเป็นบรรษัทพลเมืองที่ดี (Good Corporate Citizen) และการบรรเทาผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นหรือที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากกิจกรรมทาง ธุรกิจของตน โดยอาจจะยังไม่ได้ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมอะไรต่อมิอะไรเพิ่ม เติม ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นการทำ CSR ในเชิงรับ (Receptive)
            กิจกรรม CSR ภายใต้รูปแบบนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีปัญหาหรือผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจไปสู่สังคม หรือสังคมมีการเรียกร้องให้กิจการดำเนินความรับผิดชอบอย่างเหมาะสมต่อผล กระทบเหล่านั้น เป็นการผลักดันให้มีการริเริ่มดำเนินงาน CSR จากผู้มีส่วนได้เสียที่อยู่ภายนอกองค์กร (Outside-In)
            ส่วนวิธีการ แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในขั้นนี้ กิจการมักจะศึกษาข้อกฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐานหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง แล้วนำมาปฏิบัติเพื่อปรับให้เข้ามาตรฐาน (Standardization) อันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
            ผลลัพธ์จากการแสดง ความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยวิธีการนี้ จะทำให้กิจการได้ชื่อว่าเป็นบรรษัทพลเมืองที่มีความรับผิดชอบในการแก้ไข ปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน และได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกหนึ่งในสังคมนั้นๆ (Inclusiveness)
            อย่าง ไรก็ดี เป้าประสงค์ของการทำ CSR ในขั้นนี้ แม้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากกิจกรรม CSR จะเป็นบุคคลที่อยู่ภายนอกองค์กร แต่กิจการยังคงมุ่งรักษาไว้ซึ่งคุณค่าขององค์กร (Corporate Value) เป็นสำคัญ
Strategic CSR
                พอร์เตอร์ ได้เสนอรูปแบบของ CSR ที่เรียกว่า Strategic CSR ซึ่งยกระดับจากการเป็นเพียงบรรษัทพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อการบรรเทา ปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดจากกิจการ สู่การทำ CSR ในเชิงรุก (Proactive) ที่องค์กรสามารถริเริ่มกิจกรรม CSR ด้วยตัวเองให้แก่สังคมภายนอก (Inside-Out) ที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับความต้องการหรือการริเริ่มจากภายนอก (Outside-In)
            Corporate Invlovement in Society: A Strategic Approach (Porter and Kramer, 2006)
            วิธี การแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้รูปแบบที่เป็น CSR เชิงกลยุทธ์นี้ กิจการไม่เพียงแต่สามารถปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดหรือมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับเท่านั้น แต่ยังมีการกำหนดจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแนวปฏิบัติขององค์กร อื่นๆ มีการสร้างความแตกต่าง (Differentiation) ในวิธีการ มีอิสรภาพในการคัดเลือกประเด็นทางสังคม โดยที่ปลอดจากพันธนาการหรือข้อเรียกร้องเช่นใน Responsive CSR
            ด้วยวิธีการที่แตกต่างและกิจกรรม CSR ที่เหมาะสม ผลลัพธ์จากการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้รูปแบบที่เป็น CSR เชิงกลยุทธ์นี้ จะทำให้เอื้อต่อการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขัน (Competitiveness) ขององค์กรในระยะยาว
                เป้าประสงค์ของ CSR เชิงกลยุทธ์ ที่ผสมผสานการริเริ่มทั้งจากภายในและการเชื่อมโยงจากภายนอกจะก่อให้เกิดคุณค่าร่วมกัน (Shared Value) ระหว่างธุรกิจและสังคม
                CSR เชิงกลยุทธ์ ดูจะเป็นคำตอบของธุรกิจที่ต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในวันนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

Creative CSR
                ทำไมถึงต้องเป็น Creative CSR? แล้วหน้าตาของ Creative CSR เป็นอย่างไร?
            คำถามเหล่านี้อาจเกิดขึ้นทั้งจากผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่เห็นแย้งอยู่ในใจก็ได้
            เรื่อง CSR ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานี้ จะว่าไปแล้วก็มิได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่ได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นลำดับ รูปแบบและวิธีการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการได้มีการพัฒนาในจังหวะ ย่างก้าวที่สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมเรื่อยมา
                ทั้งนี้ กระบวนการคิดเพื่อให้ได้มาซึ่งกิจกรรม CSR เชิงกลยุทธ์ หรือการคิด CSR เชิง ยุทธศาสตร์” นั้น ส่วนใหญ่จะใช้พลังจากสมองซีกซ้ายในการวิเคราะห์หาเหตุผล คำนวณความคุ้มค่า ต้นทุน ประสิทธิภาพ ฯลฯ
ขณะที่ CSR เชิงสร้างสรรค์นั้น จะถูกปลดปล่อยออกมาจากสมองซีกขวา เป็นการคิด CSR ในเชิง ยุทธศิลป์” ที่ต้องอาศัยไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และความรู้สึกเป็นสำคัญ
                Creative CSR เป็นการทำ CSR ที่ก้าวข้ามบริบทของการรุก-รับ แต่เป็นการพัฒนากิจกรรม CSR ในเชิงร่วม (Collaborative) ที่เปิดโอกาสให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างธุรกิจและสังคมอย่างไม่แบ่งแยก
                กิจกรรม CSR ภายใต้รูปแบบนี้ จะไม่สามารถกำหนดได้อย่างชัดเจนว่าใครเป็นผู้ริเริ่มก่อนหลัง เนื่องจากเส้นแบ่งของการทำงานร่วมกันระหว่างกิจการและสังคมจะเลือนรางลง
                สำหรับ วิธีการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้รูปแบบ Creative CSR จะมิได้จำกัดเพียงการสร้างความแตกต่างในวิธีการที่มีอยู่ แต่เป็นการคิดค้นวิธีการขึ้นใหม่ เป็นนวัตกรรม (Innovation) การดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากวิธีการอื่นโดย อัตโนมัติ

Responsive CSR

Strategic CSR

Creative CSR

Corporate Value

Shared Value

Common Value

Inclusiveness

Competitiveness

Cohesiveness

Standardization

Differentiation

Innovation

Outside-In

Outside-In, Inside-Out

Blur

Receptive

Proactive

Collaborative

ผลลัพธ์ จากการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้รูปแบบที่เป็น CSR เชิงสร้างสรรค์นี้ จะทำให้เอื้อต่อการพัฒนาขีดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น (Cohesiveness) ระหว่างผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ ในอันที่จะก่อให้เกิดคุณค่าเดียวกัน (Common Value) ของทั้งกิจการและสังคม

เคลื่อนขบวน CSR ทางไหนดี
            การ ประเมินสถานการณ์ซีเอสอาร์ของไทยให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุดนั้น คงไม่สามารถหยิบเพียงส่วนของภาพที่ปรากฏ หรือเลือกเฉพาะส่วนที่เห็นหรือที่รู้สึกมานำเสนอ เนื่องจากการวิเคราะห์แบบแยกส่วนนั้น แม้ข้อเท็จจริงในส่วนนั้นๆ จะถูกต้อง แต่สถานการณ์จริงอาจไม่เป็นไปตามผลการวิเคราะห์นั้นก็ได้ อย่างเช่น การเห็นข้อมูลตัวเลขการส่งออกยังเติบโตดีอยู่ ก็สรุปเอาว่าเศรษฐกิจโดยรวมก็น่าจะดีตามไปด้วย แต่ในสถานการณ์จริงเศรษฐกิจโดยรวมไม่ได้ดีขึ้น เพราะเหตุจากปัจจัยหลักส่วนอื่นที่ส่งผล ไม่ใช่เรื่องการส่งออก เป็นต้น
                ในแวดวงซีเอสอาร์ของไทย แม้องค์กรธุรกิจจำนวนหนึ่งจะยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องซีเอสอาร์ใน ระดับที่ดีพอจนสามารถทำได้อย่างเห็นผลนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การขับเคลื่อนเรื่องซีเอสอาร์จะต้องมุ่งเน้นที่การเสริมสร้างความรู้ความ เข้าใจเรื่องซีเอสอาร์เป็นหลัก เพราะในความเป็นจริงอีกด้านหนึ่ง ก็ยัง มีองค์กรธุรกิจอีกจำนวนหนึ่งที่พัฒนาจนสามารถปฏิบัติเรื่องซีเอสอาร์ได้ อย่างล้ำหน้าเลยขั้นของการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจไปแล้ว
                กรณี ที่ถูกมองว่าซีเอสอาร์เป็นเรื่องที่จำกัดอยู่เฉพาะในวงของบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทที่เป็นเอสเอ็มอีไม่ค่อยรู้เรื่องหรือไม่สามารถทำได้ แม้จะรู้สึกได้ว่าเป็นเช่นนั้น แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ยังมีบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กอีกหลายแห่งที่ทำเรื่องซีเอสอาร์มาอย่างยาว นาน เพียงแต่ไม่ได้ใช้คำว่าซีเอสอาร์ หรือไม่ได้สื่อสารกับคนภายนอกให้เป็นที่รับรู้ ฉะนั้น การที่สังคมภายนอกไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่า องค์กรเหล่านี้ไม่ได้ทำเรื่องซีเอสอาร์
                กรณี ที่สังคมเข้าใจว่าองค์กรธุรกิจทำซีเอสอาร์ไปเพื่อกลบเกลื่อนความไม่ดีของตน เอง ที่ไปสร้างความเสียหายให้แก่สังคม จึงต้องใช้การสร้างภาพลักษณ์ด้วยการดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์เพื่อลดกระแสต่อ ต้านจากสังคม องค์กรธุรกิจจำพวกที่ว่านี้ก็มีอยู่จริง จนมีคำเรียกกิจกรรมดังกล่าวนี้ว่าเป็นซีเอสอาร์เทียม ด้วยเหตุที่กิจการเหล่านี้เอาแต่คำนึงถึงประโยชน์ของตัวแต่ฝ่ายเดียว ไม่ได้ห่วงใยในผลกระทบที่มีต่อสังคมซึ่งเกิดจากกระบวนการทางธุรกิจของตน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่ายังมีองค์กรธุรกิจที่ดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์เพื่อยัง ประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างจริงจัง โดยที่มิได้คาดหวังผลตอบแทนทางธุรกิจใดๆ กิจกรรมที่เกิดจากองค์กรธุรกิจในกลุ่มนี้เอง จึงได้ถูกเรียกขานว่าเป็นซีเอสอาร์แท้
                ด้วยเหตุนี้ การประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนในการขับเคลื่อนเรื่องซีเอสอาร์นั้น จึงต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน มิฉะนั้นแล้ว อาจจะทำให้เกิดช่องว่างหรือเกิดความล่าช้าในการพัฒนา ทั้งนี้ หนทางการขับเคลื่อนเรื่องซีเอสอาร์นั้น ควรต้องมองเป็น ขบวน” ซึ่งมีระดับขั้นของพัฒนาการที่แตกต่างกัน
                เริ่มจากหัวขบวนที่ เป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจผู้นำการพัฒนาและดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ได้อย่างก้าว หน้า และกำลังแสวงหานวัตกรรมในการทำซีเอสอาร์ที่สูงขึ้นไปหรือที่แตกต่างออกไปจาก ผู้ที่กำลังตามมา ในกลุ่มที่เป็นหัวขบวนนี้ จะ ต้องส่งเสริมให้มีเครื่องมือการออกแบบ มีวิธีการวัด วิธีการกำกับติดตาม หรือวิธีการรายงานผลที่สามารถตอบสนองการคิดค้นและพัฒนากิจกรรมซีเอสอาร์ทั้ง ในและนอกกระบวนการธุรกิจ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมยิ่งๆ ขึ้นไป
                ในส่วนของท้ายขบวน จะเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจที่สนใจและกำลังศึกษาทำความรู้ความเข้าใจเรื่องซี เอสอาร์ เพื่อจะนำไปปฏิบัติในองค์กร ซึ่งก็มีทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กปะปนกัน ในกลุ่มนี้ จะ ต้องให้หลักการ แนวทาง หรือคู่มือในการดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์อย่างถูกต้องและอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อจะได้สามารถริเริ่มพัฒนากิจกรรมซีเอสอาร์แท้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ สังคม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ สร้างให้เกิดเป็นภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ ไม่หลงไปกับการพัฒนากิจกรรมซีเอสอาร์เทียมเพียงเพื่อหวังภาพลักษณ์ทางธุรกิจ
                ขณะที่ในท่อนกลางของขบวน จะเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ควบคู่ไปกับการ ดำเนินธุรกิจ มีการลองผิดลองถูก ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง โดยยังขาดทิศทางที่แน่ชัดว่า กิจกรรมซีเอสอาร์หลักๆ ที่องค์กรควรทำคืออะไร และที่ไม่ควรทำคืออะไร องค์กรธุรกิจในกลุ่มนี้ จะต้องสร้างศักยภาพให้เขาสามารถวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน สามารถจัดทำแผนที่กลยุทธ์ด้านซีเอสอาร์ เสมือนเป็นแผนที่นำทางขององค์กรในการทำประโยชน์ให้แก่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
            เมื่อ พิจารณาการพัฒนาซีเอสอาร์ในลักษณะที่เป็นขบวนเช่นนี้ ก็จะทำให้สามารถกำหนดรูปธรรมของการขับเคลื่อนให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายใน แต่ละส่วนของขบวนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินไปพร้อมกันได้ทั้ง ขบวน โดยไม่ตกหล่นในส่วนใดส่วนหนึ่งไป
            เนื่องจากพัฒนาการของซีเอส อาร์ในปัจจุบันมีพลวัตสูง ทำให้การขับเคลื่อนจึงต้องมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ครั้งหนึ่ง ความรับผิดชอบต่อสังคมที่เกิดขึ้นตามหน้าที่หรือตามที่กฎหมายกำหนด มิได้อยู่นอกเหนือจากที่มีอยู่ในข้อกำหนด ระเบียบ หรือมาตรฐาน และมิใช่การกระทำที่เกิดจากความสมัครใจ ไม่ถือกันว่าเป็นซีเอสอาร์ แต่ในปัจจุบันกลับนิยามว่าเป็นซีเอสอาร์แบบหนึ่ง
                สำหรับ สถานการณ์ซีเอสอาร์ของไทยในปี 2551 นี้ กระแสเรื่องซีเอสอาร์ที่เกิดขึ้น ยังจะส่งผลให้บริษัทต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก กระโดดเข้าร่วมขบวนเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ไม่น้อยไปกว่าปี 2550 ขณะที่กลุ่มองค์กรธุรกิจที่ได้เริ่มกิจกรรมซีเอสอาร์อย่างจริงจังในปีที่ ผ่านมา ก็จะเห็นทิศทางในการดำเนินงานที่ชัดเจนขึ้น มีกลยุทธ์มากขึ้น รวมทั้งจะได้เห็นซีเอสอาร์ในรูปแบบใหม่ๆ ที่ใช้นวัตกรรมเข้ามาผสมผสานกับกิจกรรมซีเอสอาร์ได้อย่างน่าสนใจ โดยยังคงไว้ซึ่งคุณค่าในการดำเนินงาน ภายใต้งบประมาณที่ปรับตามสภาวะเศรษฐกิจในปี 2551 นี้

 

แนวทางการให้บริการทางหน่วยงาน
ทั้งที่เป็นผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบ (เฉพาะกระบวนงานหรือ Process)

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2 : ระดับความสำเร็จของการวางแผนปรับปรุงองค์กรสู่การจัดการผลกระทบทางลบต่อองค์กรและสังคม

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

  • งานอำนวยการและธุรการ

                จัดระบบงานธุรการให้เป็นระบบ รวดเร็ว มีระบบสืบหาข้อมูล

    • อบรมพัฒนา หรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน
    • ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับหน่วยงาน ภารกิจ ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ โดยพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ฯ และข่าวที่ไม่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชนส่วนใหญ่ หรือข่าวที่ก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิด
    • เปิดช่องทางรับข้อมูลการแจ้งเบาะแส เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทางอีเมลล์ ทางจดหมาย หรือทางโทรศัพท์ ฯ
    • รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ตรวจสอบ รายงานผล(ทั้ง ผู้บังคับบัญชา และประชาชนทราบ) และจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ
  • งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
  • การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ถวายความปลอดภัย
  • ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์
    • ประชาชนที่ใช้รถหลงเข้ามาในเส้นทางเสด็จหรือกำลังจะออกมาเทียบขบวนเสด็จ
      • ใช้ยุทธวิธีการสกัดกั้น โดยคำนึงถึง
  • ความปลอดภัยของรถพระที่นั่งและรถในขบวนเสด็จ
  • ความปลอดภัยประชาชนที่หลงเข้ามาในเส้นทางเสด็จ
  • การใช้สัญญาณแจ้งเตือน สัญญาณเสียง ไมโครโฟน และท่าทางโดยความละมุนละม่อม แต่การปฏิบัติเป็นไปโดยปลอดภัย
    • ระหว่างการปฏิบัติพระราชกรณียกิจณที่หมาย
      • การประชาสัมพันธ์การนั่ง การห้ามถ่ายรูป การแต่งกาย การอยู่ในที่จัดไว้สำหรับการรับเสด็จ การเดินตัดขบวน ฯ
      • ใช้วาจาที่สุภาพ และ เป็นที่เข้าใจของประชาชน
  • งานเจรจาต่อรอง
    • การใช้หลักการเจรจาตามขั้นตอน
    • การใช้กิริยาวาจาที่สุภาพต่อประชาชนทั้งที่เกี่ยวข้องหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกจากที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ที่จำกัดไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
    • การปฏิบัติต่อคนร้าย ตัวประกัน กลุ่มชุมนุมประท้วง หรือแกนนำ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม และมีความความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุหรือพฤติการณ์ต่าง ๆ ของคนร้าย
    • การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าทีต่างหน่วย หรือองค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ ต่าง ๆ เป็นไปด้วยดี สร้างบรรยากาศการร่วมงานที่ดี
    • การปฏิบัติทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ใช้หลักจิตวิทยา และการทำงานที่เป็นขั้นตอนตามหลักการเจรจาต่อรอง
  • งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
  • ระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุ
    • การใช้เส้นทางโดยความเร่งด่วน มีการใช้สัญญาณไฟวับวาบ สัญญาณเสียงเตือน และไมโครโฟน แจ้งขอทาง โดยคำนึงถึงความปลอดภัย คำพูด และวิธีการปฏิบัติที่ละมุนละม่อม
  • ระหว่างการเข้าปฏิบัติการ เมื่อพบประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ให้ออกจากที่เกิดเหตุ
    • การวางแผนและการเข้าปฏิบัติการนอกจากคำนึงถึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันแล้วให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนใกล้ที่เกิดเหตุ เช่น วิถีกระสุน ขนาดกระสุนที่ใช้ยิง อาวุธที่ใช้
    • การปฏิบัติต่อตัวประกัน คนร้าย เป็นไปตามยุทธวิธี
    • การฟื้นฟูที่เกิดเหตุเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
  • งานควบคุมฝูงชน
    • การวางแผนการปฏิบัติในการควบคุมฝูงชนที่ดี
    • จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) โดยแบ่งแยกหน้าที่ให้ชัดเจน ผบ.เหตุการณ์คือใคร เจ้าหน้าที่ชุดเจรจารับฟังข้อเรียกร้องจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม
    • การประชาสัมพันธ์โดยการประกาศเกี่ยวกับการชุมนุมโดยสงบและที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
    • การประกาศแจ้งเกี่ยวกับขั้นระดับการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชนเพื่อให้ทุกฝ่ายทราบและเป็นที่เข้าใจ
    • การปฏิบัติการทางจิตวิทยา ไม่กดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่เกิดความเครียดและสร้างบรรยากาศการชุมประท้วงให้เป็นไปโดยสงบ
    • การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น การจัดการจราจร การประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
    • การปฏิบัติขณะมีการชุมนุม และภายหลังมีการชุมนุม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
      • ทั้งในยามปกติ และ การใช้กำลังในการสลายการชุมนุม
    • การฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนและประชาสัมพันธ์ให้ตัวแทนฝ่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ได้รับรู้ถึงการปฏิบัติของกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติตามระดับการใช้กำลังที่เป็นไปตามกฎหมาย
    • การฝึกใช้อาวุธ โล่ กระบอง การยิงกระสุนแก๊สน้ำตา ที่ถูกต้องให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
  • งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
    • วัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่หน่วย
    • จัดทำโครงการหรือแผนการฝึกให้การภาคเอกชนและประชาชน เกี่ยวกับการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น ธนาคาร ร้านค้าทอง ปั๊มน้ำมัน ฯ ประชาชนทั่วไป 
      • การยิงปืนขั้นพื้นฐาน กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
      • ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวสำหรับสุภาพสตรี และเยาวชน
      • การรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ บ้านพัก
    • จัดทำโครงการของบประมาณสร้างสนามยิงปืนทางยุทธวิธีให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนทั่วไป
    • จัดสถานที่สำหรับการฝึกและประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ภายในหน่วย
  • งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่
    • เป็นการปฏิบัติกฎหมายคุ้มครองพยาน
    • การรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญระดับประเทศ ระดับชาติ เพื่อความเชื่อมั่นแก่หน่วยงาน และประเทศ
    • การรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายแก่หน่วยงานและที่ประชาชนต้องมาติดต่อใช้บริการ
    • เป็นการคุ้มครองพยานสำคัญ ผู้ต้องหาสำคัญ ให้สามารถดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมจนจบ
    • ในงานมหกรรมใหญ่ ๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท การทำร้ายชีวิตร่างกาย การประทุษร้ายต่อทรัพย์ ให้อยู่ในการควบคุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
    • การปฏิบัติต่าง ๆ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน

                                          ว่าที่ พ.ต.ต.                                                                            ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
                                                                                          ( สุริยะ  โพธิ์ทองนาค )
                                                                ด.ต.                                                                         คณะทำงาน
                                                                                            ( บุญเยี่ยม  ศรีวิเศษ )
                                                                ด.ต.                                                                         คณะทำงาน
                                                                                              ( เกียรติ  มูลมาตย์ )

krut                                                  บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ        กก.ปพ.ศสส.ภ.2               

ที่              0018.23 /                                                    วันที่             พฤษภาคม 2552

เรื่อง   รายงานผลการปฏิบัติคณะทำงานตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2 ขั้นตอนที่ 1

เรียน    รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.2 (ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น)

                                1. ตามคำสั่ง ศสส.ภ.2 ที่ 6/2552 ลง 4 ก.พ.2552 แต่งตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2552  และคำสั่ง กก.ปพ.ที่ 1/2552 ลง 12 ก.พ.2552 แต่งตั้งผู้รับผิดชอบดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ 2552  ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามตัวชี้วัดที่ 3.1.22 นี้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกรอบและแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองฯ จัดทำรายละเอียดแล้วรายงานความก้าวหน้าในรอบ 6 เดือน 9 เดือน และ 12 เดือน ให้ ศสส.ภ.2 ทราบ นั้น
2. ตามคู่การประเมินผลการปฏิบัติราชการ ฯ ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2 ขั้นตอนที่ 1 ให้ตั้งคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์แนวคิดการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรและสรุปแนวทางในการให้บริการและความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งที่เป็นผลกระทบทางบวกและการดำเนินการที่เป็นทางลบ ข้อ1.4 การดำเนินงานทั้ง 1.1-1.3 รายงานให้หน่วยเหนือทราบ
3. คณะทำงานตัวชี้วัด ที่ 3.1.22.1 ขอส่งเอกสารตามข้อ 2. ดังที่แนบมาพร้อมหนังสือนี้ด้วยแล้ว จำนวน              แผ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
                                จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา 
                                                                                   ว่าที่ พ.ต.ต.                                                         ผู้รับผิดชอบ
                                                                                                          ( สุริยะ โพธิ์ทองนาค )
                                                                                                       สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2                    
               


-ทราบ
-เรียน      ผกก.ปพ.ศสส.ภ.2
                เพื่อโปรดทราบ
………………………………………………………
                                พ.ต.ท.
                                                (ไพโรจน์ หมื่นกล้าหาญ)
                                             รอง ผกก.กก.ปพ.ศสส.ภ.2
                                                       ........./........./2552

-ทราบ
-เรียน      รอง.ผบก.หน.ศสส.ภ.2
                เพื่อโปรดทราบ
………………………………………………………
                                พ.ต.อ.
                                                (นิพนธ์ พานิชเจริญ)
                                               ผกก.กก.ปพ.ศสส.ภ.2
                                                  ........./........./2552

 

แนวทางการปฏิบัติต่อผลกระทบทางลบ
2 แนวทาง

            แนวทางที่ 1
            การวางแผนปรับปรุงองค์กรในส่วนที่เป็นโอกาสปรับปรุงของปีงบประมาณ พ.ศ.2551 มาดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2552
                1. นำกรอบภารกิจอำนาจหน้าที่ในส่วนของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ มาเป็นหลักในการแยกแยะโครงสร้างงานตามหน้างานเพื่อความชัดเจน
                2. จัดแบ่งงานแต่ละภารกิจออกและจัดตัวบุคคลอยู่ปฏิบัติและรับผิดชอบในการปฏิบัติงานในแต่ละภารกิจ
                3. จัดการฝึกอบรมกำลังพลให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานที่ต้องปฏิบัติอย่างถ่องแท้     
                4. ผู้บริหารและฝ่ายธุรการอำนวยการ จัดระบบงานธุรการให้มีระบบ และดำเนินการสนับสนุนในการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ สถานที่ต่าง ๆ ไว้ให้พร้อม รวมทั้งการขอสนับสนุนงบประมาณต่าง ๆ
                5. กำหนดเป้าหมาย หรือจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติงาน
            6. จัดวงรอบการปฏิบัติงาน หรือ ขั้นการปฏิบัติงานตามนโยบายและเป้าหมาย
                7. การสนับสนุน
                8. การควบคุมกำกับดูแล
                9. การประเมินวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงาน ได้ตามเป้าหมายหรือไม่
            10.  การปรับปรุงแผนการปฏิบัติงาน และปฏิบัติ
                11. ประเมินซ้ำและนำไปปรับปรุงการปฏิบัติงาน หรือเพื่อนำไปเป็นกรศึกษาเพื่อถ่ายทอดให้กับหน่วยข้างเคียง
                12. ประชาสัมพันธ์
                แนวทางที่ 2
            การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรโดยใช้เทคนิค CSR
                        ส่วนที่ 1 จัดลำดับความสำคัญในการวางแผนปรับปรุงองค์กรเพื่อจัดการผลกระทบทางลบ
(ตามแนวทางที่ 1) 1.1 จัดลำดับความสำคัญของแผนปรับปรุงหรือพัฒนาองค์กร
                                                1.2 เสนอแผนปรับปรุง
                                                1.3 วางแผนดำเนินการปรับปรุงพัฒนา
                                ส่วนที่ 2 จัดทำ CSR Straegy เพื่อสร้างการยอมรับ
(ตามแนวทางที่ 1)
                                         
                                                ว่าที่ พ.ต.ต.                                                                              ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
                                                                             ( สุริยะ  โพธิ์ทองนาค )
                                                               

แผนผังลำดับงาน: ขั้นตอน: แบบฟอร์มสำหรับตัวชี้วัดที่เป็นขั้นตอนการดำเนินงาน

 

รายงานการประเมินผลตนเองตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ (รายตัวชี้วัด)

R  รอบ  6 เดือน
q  รอบ  9  เดือน

q  รอบ 12 เดือน

ชื่อตัวชี้วัด :  ตัวชี้วัดที่ 3.1.22                ระดับความสำเร็จของการบริหารจัดการองค์กรสู่มาตรฐานสากล
                                            ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2               ระดับความสำเร็จของการวางแผนปรับปรุงองค์กรสู่การจัดการผลกระทบทางลบต่อ
                                                                องค์กรและสังคม

ผู้กำกับดูแลตัวชี้วัด พ.ต.ท.ไพโรจน์ หมื่นกล้าหาญ

ผู้จัดเก็บข้อมูล : ว่าที่ พ.ต.ต. สุริยะ โพธิ์ทองนาค

เบอร์ติดต่อ :  0 3827 5027

เบอร์ติดต่อ :  0 3827 5027

หน่วยวัด :
น้ำหนัก :
คำอธิบาย :

ข้อมูลผลการดำเนินงาน


ระดับคะแนน

การดำเนินงานในแต่ละขั้นตอน ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2552

1

                ตั้งคณะทำงานศึกษาวิเคราะห์แนวคิดการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรและสรุปแนวทางในการให้บริการและความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งที่เป็นผลการดำเนินการที่เป็นทางบวก (เฉพาะ Process) และการดำเนินการที่เป็นทางลบ หรือเกิดผลกระทบทางลบ
                1.1 ตั้งคณะทำงานศึกษาและวิเคราะห์การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม                1.2 จัดอบรมการจัดการผลกระทบทางลบต่อสังคม (CSR) และการฝึกอบรมการจัดทำแผนปรับปรุงองค์กร (หรือแผนพัฒนาองค์กร)
                1.3 คณะทำงานตามข้อ 1.1 สรุปแนวทางการให้บริการทางหน่วยงานทั้งที่เป็นผลกระทบทางบวก (เฉพาะกระบวนงาน หรือ Process) และการดำเนินการที่เป็นทางลบหรือผลกระทบทางลบ (เฉพาะที่เป็นกระบวนงาน หรือ Process)
                1.4 การดำเนินการทั้ง 1.1 – 1.3 รายงานให้ ศสส.ภ.2 ทราบ

2

                ผู้บริหารและคณะทำงานนำผลการวิเคราะห์ที่เป็นผลกระทบทางลบมากำหนดแนวทางใน 2 แนวทาง
                2.1 การวางแผนปรับปรุงองค์กรในส่วนที่เป็นโอกาสปรับปรุงของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 มาดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
                2.2 การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร โดยใช้เทคนิค  CSR
ส่วนที่ 1 : จัดลำดับความสำคัญการวางแผนปรับปรุงองค์กรเพื่อจัดการผลกระทบทางลบ โดย
1)  จัดลำดับความสำคัญของแผนปรับปรุงหรือพัฒนาองค์กร
2)  เสนอแผนปรับปรุง
3)  วางแผนและดำเนินการปรับปรุง/พัฒนา
 ส่วนที่ 2 : จัดทำ  CSR  Strategy  เพื่อสร้างการยอมรับ
                2.1 การวางแผนปรับปรุงหรือพัฒนาองค์กร
                2.2 หน่วยงานระดับ กก. หรือเทียบเท่า เป็นพื้นที่ปฏิบัติการปรับปรุงตามแผน โดยแบ่ง/แยกแนวทางการปรับปรุง หรือเฉลี่ยแนวทางการปรับปรุงให้แก่หน่วยงานระดับ กก. หรือเทียบเท่า ไปวางแผนและดำเนินการปรับปรุง/พัฒนา
                                2.3 จัดทำ CSR Strategy เพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมหรือสร้างการยอมรับแล้วเสนอแผนงาน CSR ต่อ ตร. (ผ่าน ศปก.ตร.) ทราบ

3

                                หน่วยงานระดับปฏิบัติ (กก.หรือเทียบเท่า) ที่เกิดผลกระทบทางลบได้ดำเนินการปรับปรุงระดับ Process และออกแบบกระบวนงาน เพื่อให้เกิดผลผลิตที่แก้ไขผลกระทบ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบผ่านช่องทางต่างๆ ส่วนที่แผนงาน  CSR โดยระบบ PDCA  กำหนดแผนติดตาม
                3.1 บช./บก. เป็นพี่เลี้ยง/สนับสนุนการดำเนินการปรับปรุงตามแผนปรับปรุงหรือแผนพัฒนาองค์กร และแผนงาน CSR ต่อหน่วยงานระดับ กก. หรือเทียบเท่า
      - โดยในการวางแผนปรับปรุงหรือพัฒนา (สอดคล้องกับหมวด 3 และหมวด 6) กำหนดให้มีการปรับปรุงระดับกระบวนงาน หรือ Process

เกณฑ์การให้คะแนน :

ระดับ 1

ระดับ 2

ระดับ 3

ระดับ 4

ระดับ 5

1

2

3

4

5

การคำนวณคะแนนจากผลการดำเนินงาน :

ตัวชี้วัด/
ข้อมูลพื้นฐานประกอบตัวชี้วัด

น้ำหนัก
(ร้อยละ)

ผลการดำเนินงาน

ค่าคะแนน
ที่ได้

ค่าคะแนน        ถ่วงน้ำหนัก

ระดับความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ

-

3

3

 

คำชี้แจงการปฏิบัติงาน/มาตรการที่ได้ดำเนินการ  :
                1.ศสส.ภ.2 ได้ประชุมแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามตัวชี้วัดที่ 3.1.22.2 นี้ โดยให้ทำการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลตามพันธกิจ ผลกระทบทางบวก ทางลบ ผู้รับบริการหลัก ผลผลิต ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยให้ปฏิบัติตามกรอบของคู่มือการประเมินผลการปฏิบัติราชการที่ให้มา
                2.จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ
                3.รายงานผลการปฏิบัติให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด

ปัจจัยสนับสนุนต่อการดำเนินงาน : 
1.ผู้บังคับบัญชามีความสนใจและใส่ใจโดยมีการประชุมเร่งรัดอยู่เสมอ
2.เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและช่วยกันปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี

อุปสรรคต่อการดำเนินงาน :    
1. กก.ปพ.ศสส.ภ.2 เป็นหน่วยที่ไม่สัมผัสกับประชาชนโดยตรง ทำให้การประชาสัมพันธ์หน่วยเป็นไปด้วยความยากลำบาก
2. หน้างานของ กก.ปพ.ศสส.ภ.2 มีภารกิจเฉพาะและต้องการกำลังพลมาก รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ทักษะ ความเชี่ยวชาญในงานเฉพาะ แต่ยังขาดงบประมาณในการจัดการฝึกอบรม กำลังพลไม่เพียงพอ

หลักฐานอ้างอิง :
                1.คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ
                2.บันทึกรายงานการประชุมการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี พ.ศ.2552 ตัวชี้วัดที่ 3.1.22
                3.ผลการศึกษาและวิเคราะห์การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม
                4.เอกสารการฝึกอบรมการจัดการผลกระทบทางลบต่อสังคม (CSR) และ การจัดทำแผนพัฒนาองค์กร 
                5.แนวทางการให้บริการทางหน่วยงานทั้งที่เป็นผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบ (เฉพาะกระบวนงานหรือ Process)
                6.แนวทางการปฏิบัติต่อผลกระทบทางลบ 2 แนวทาง
                7.แนวทางการพัฒนาหน่วย

TOP กลับไปสารบัญ

 

ตัวชี้วัดที่  3.1.22.3 : ระดับความสำเร็จของการสร้างความสัมพันธ์กับผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร


ผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล
            เกี่ยวกับ          งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ Output หลักและกระบวนงาน (ผลผลิตและบริการหลักตามพันธกิจหน่วยงาน)
เพื่อนำผลสำรวจความพึงพอใจและไม่พึงพอใจของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสียมาศึกษาวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการวางแนวทางแก้ไข
ของ
กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
และการวิเคราะห์เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไข

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.3 : ระดับความสำเร็จของการสร้างความสัมพันธ์กับผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้เสียขององค์กร

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา
            1. แบบสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่มีต่อ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
            2. แบบสำรวจภาพลักษณ์ ที่มีต่อ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
            3. กรอบภารกิจหน้าที่ตามพันธกิจ และ ผลผลิตของหน่วย

ผลการศึกษาวิเคราะห์


ส่วนที่ 1       Output หลัก หรือผลผลิตหลักของหน่วย
                        กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ เป็นหน่วยงานที่ไม่ได้สัมผัสกับประชาชนโดยตรง โดยตามภารกิจอำนาจและหน้าที่ที่ ตร. ได้กำหนดไว้ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วย การกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2548 สรุปภารกิจได้ดังนี้

  1. งานอำนวยการและธุรการ
  2. งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
  3. งานเจรจาต่อรอง
  4. งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
  5. งานควบคุมฝูงชน
  6. งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
  7. งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

                        จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติงานของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ จะเป็นไปในลักษณะกรณีที่เกิดเหตุการณ์วิกฤต หรือเป็นเหตุเฉพาะที่ใช้หน่วยพิเศษในการเข้าคลี่คลายและแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหน่วยงานจะไม่ได้สัมผัสกับประชาชนโดยตรง เช่น โรงพัก แต่เมื่อได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่แล้วจะต้องมีการปฏิบัติต่อประชาชนทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ หรือความรู้สึกต่อประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งตามข้อมูลผลการศึกษาผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบจากการปฏิบัติหน้าที่ตามหน้างานทั้ง 7 หน้างานดังกล่าว สรุปได้ดังนี้

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

1.

งานอำนวยการและธุรการ

  1. ดำเนินการทางด้านงานธุรการ การประสานงานกับหน่วยเหนือ หน่วยข้างเคียง หน่วยงานนอกสังกัด ตร. ทั้งภาครัฐและเอกชน
  2. ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบของ กก.ปพ.ฯ ที่จำเป็นแก่ประชาชน  หน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน         เช่น ภัยการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ บุคคลมีหมายจับการก่อความไม่สงบ การสังเกตและการปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยเป็นระเบิด การป้องกันตัวสำหรับสตรีและเยาวชน ฯ
  3. รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบ เช่น ข้อมูลบุคคลต้องสงสัยของอาชญากรข้ามชาติ บุคคลก่อความไม่สงบ คนร้ายมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ผู้มีอิทธิพล ฯ แล้วจัดทำเป็นเอกสารรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ

ดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ได้รับการแจ้งเบาะแสหรือการร้องเรียนจากประชาชน การรายงานผลการปฏิบัติ และการเก็บรวบรวมข้อมูลของการดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

2.

งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรถอาวุธและอุปกรณ์พิเศษเพื่อเตรียมพร้อมในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 หรือตามที่ ตร.มอบหมาย ทั้งที่มีหมายกำหนดการหรือเป็นการส่วนพระองค์
  2. ร่วมตรวจพื้นที่รับเสด็จและการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในขบวนเสด็จรวมทั้งตำรวจพื้นที่ หน่วยราชการอื่น ๆ ที่ร่วมปฏิบัติ

                                -หน่วยงานในสังกัด ตร.และ ภ.2
                                -กรมสมุหราชองครักษ์ หรือฝ่ายทหาร 
                                -สำนักพระราชวัง    -หน่วยงานอื่นๆที่ร่วมปฏิบัติในการ ถปภ.

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

3.

งานเจรจาต่อรอง

จัดเจ้าหน้าที่ชุดเจรจาต่อรองรองรับ กรณี คนร้ายจับตัวประกัน คนคิดฆ่าตัวตาย กลุ่มชุมนุมประท้วง เพื่อสนับสนับตำรวจพื้นที่ในการปฏิบัติและเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

4.

งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุด SWAT ที่ได้รับการฝึกจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 จาก บก.สอ.บช.ตชด.

                มีหน้าที่  สนับสนุนตำรวจท้องที่ทางด้านยุทธวิธีในการช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ การวางแผนหรือแนวทางในการปฏิบัติการในพื้นที่เกิดเหตุวิกฤติ การประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางยุทธวิธี

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

5.

งานควบคุมฝูงชน

  1. จัดเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน และชุดอาวุธพิเศษ ตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ48)
    1. เพื่อสนับสนุนตำรวจท้องที่ กองร้อย ปจ.ในสังกัด ภ.2 เมื่อได้รับการร้องขอ
    2. ประชาสัมพันธ์หรือปฏิบัติการทางจิตวิทยาให้ประชาชนทราบถึงสิทธิการชุมนุมประท้วงตามกรอบของกฎหมายและการปฏิบัติตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่เมื่อมีการละเมิดกฎหมาย

ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนทราบถึงระดับการใช้กำลัง

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

6.

งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ

  1. จัดครูฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจ โดยจัดหลักสูตรและเตรียมแผนการฝึกตามระดับความสำคัญของยุทธวิธีให้ตามความเหมาะสม
    1. ฝึกอบรมทบทวนภายใน
    2. ฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานภาครัฐนอกสังกัด ตร.

ฝึกอบรมให้แก่เอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป

ลำดับ

ผลผลิต

บริการหลัก

7.

งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่

  1. จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ พยานคดีสำคัญ ผู้ต้องหาคดีสำคัญ ฯ
  2. จัดเจ้าหน้าที่สิบเวรยามรักษาความปลอดภัย กก.ปพ.ฯ , บ้านพักข้าราชการของผู้บังคับบัญชา

รักษาความปลอดภัยสถานที่จัดงานมหกรรม เมื่อได้รับการร้องขอ

ส่วนที่ 2             ผลการสำรวจความพึงพอใจและไม่พึงพอใจของผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
                                และผลการสำรวจภาพลักษณ์ของหน่วย

                1. จากแบบสำรวจความพึงพอใจและไม่พึงพอใจ
                                จากการสุ่มแบบสำรวจ กับ ผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 100 คน คะแนนเต็ม 60 คะแนน คิดคะแนนตามสัดส่วน เกณฑ์การคิดใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ สรุปผลได้ดังนี้
                                การคำนวณ ใช้การคำนวณ 20 คะแนน = 12 คะแนน ถ้าได้คะแนนจากแบบสำรวจเท่าใด ให้นำผลคะแนนที่ได้ คูณด้วยคะแนนเต็มหลักจากการคำนวณ แล้วหารด้วยคะแนนเต็มของแบบสำรวจในหัวข้อนั้นๆ
                                 1.1 ด้านตัวเจ้าหน้าที่ 20%
                                                - คะแนนเต็ม 12 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 20 คะแนน
                                                - สรุปคะแนน         ได้           12           คะแนน 
                                                - อยู่ในเกณฑ์ประทับใจ
                                1.2 ด้านความรู้ของเจ้าหน้าที่ 30%
                                    - คะแนนเต็ม 18 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 10 คะแนน
                                                - เงื่อนไข ความรู้เกี่ยวกับงานในหน้าที่และภารกิจของหน่วย
                                                - สรุปคะแนน         ได้           18        คะแนน                  
                                                - อยู่ในเกณฑ์ประทับใจ
                                1.3 ขั้นตอนการให้บริการ 30%
                                                - คะแนนเต็ม 18 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 15 คะแนน
                                                - เงื่อนไข การให้บริการเกี่ยวกับงานในหน้าที่และภารกิจของหน่วย
                                                - สรุปคะแนน         ได้           10.8       คะแนน  
                                                - อยู่ในเกณฑ์เฉย ๆ
                                1.4 บรรยากาศ สถานที่ และอุปกรณ์ (20%)
                                                - คะแนนเต็ม 12 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 15 คะแนน
                                                - สรุปคะแนน         ได้           7.2         คะแนน
                                                - อยู่ในเกณฑ์เฉยๆ

สรุป        ภาพรวมคะแนนผลการการสำรวจจากคะแนนเต็ม 60 คะแนน ได้ 48 คะแนน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ได้ 80%
            และวิเคราะห์ได้ดังนี้
                1. ด้านตัวเจ้าหน้าที่มีการแต่งกายที่เหมาะสมโดยเครื่องแบบของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ มีเครื่องแบบชุดฝึกกากีแกมเขียว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์แสดงออกได้ถึงการเป็นหน่วยกำลัง และมีอุปกรณ์การปฏิบัติงานเช่นเข็มขัดสนาม การพกอาวุธปืน ไฟฉาย กุญแจมือ ฯ เรียบร้อยดูทะมัดทะแมง น่าเกรงขามและดูมีระเบียบวินัย มีการปฏิบัติต่อผู้รับบริการอย่างดี (กรณีมีผู้มาติดต่อราชการ) และมีความกระตือรือร้นเอาใจใส่ต่อผู้มารับบริการ
                2. ด้านความรู้เกี่ยวกับภารกิจตามพันธกิจของหน่วย สามารถอธิบายให้ผู้รับบริการเข้าใจได้ดี และสามารถประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยได้ดีเมื่อมีข้อสงสัยและสอบถาม โดยที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ มีภารกิจเฉพาะและเป็นกรณีพิเศษที่ไม่ได้สัมผัสต่อประชาชนโดยตรง โดยประชาชนส่วนใหญ่สงสัยและสอบถามถึงหน่วยและภารกิจเป็นประจำเมื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่และได้พบปะกับประชาชน
                3. ขั้นตอนการให้บริการต่อผู้รับบริการ ฯ ยังไม่ดีนักเนื่องจากภารกิจของหน่วยไม่ได้สัมผัสต่อประชาชนโดยตรง และการปฏิบัติงานจะเป็นไปในลักษณะของการปฏิบัติการพิเศษ ฯ ที่จะออกไปสนับสนุนการปฏิบัติในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเหตุวิกฤตเป็นกรณีไป เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การปิดล้อมๆจับคนร้ายคดีสำคัญ คนร้ายมีอาวุธปืนสงคราม เป็นต้น
                4. บรรยากาศ สถานที่ และอุปกรณ์ ยังไม่ดีนัก เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาอาคารสถานที่เพิ่มเติมยังขาดงบประมาณ ซึ่งต้องจัดทำโครงการของบประมาณในการจัดสร้างในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
           
            2. จากแบบสำรวจภาพลักษณ์
                                จากการสุ่มแบบสำรวจ กับ ผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 100 คน เกณฑ์การคิดใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ สรุปผลได้ดังนี้
2.1 เจ้าหน้าที่มีอัธยาศัยไมตรีและความสุภาพ (Council Staff)
            ได้ระดับความพึงพอใจ           มาก         คิดเป็น    80%
2.2 สามารถให้บริการได้อย่างสำเร็จลุล่วง (Performance of Council)
            ได้ระดับความพึงพอใจ           มาก         คิดเป็น    80%
2.3 มีความน่าเชื่อถือ (Reliability)
            ได้ระดับความพึงพอใจ           มาก         คิดเป็น    80%
2.4 เป็นที่ยอมรับในทุกภาคส่วน (ประชาชน สื่อสารมวลชน รัฐ สถาบันศึกษา)
                ได้ระดับความพึงพอใจ           น้อย        คิดเป็น    80%
2.5 เป็นที่ชื่นชมและได้รับแนะนำแก่คนรอบข้าง
                ได้ระดับความพึงพอใจ           น้อย        คิดเป็น    80%

สรุปผลการวิเคราะห์จากแบบสำรวจภาพลักษณ์
                กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ มีเจ้าหน้าที่ที่มีอัธยาศัยไมตรีมีความสุภาพ มีความสนใจในการให้บริการต่อผู้รับบริการ และมีความน่าเชื่อถือต่อผู้รับบริการที่ได้เข้ามาสัมผัสและการติดต่อประสานงาน แต่สาเหตุที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในทุกภาคส่วน อันได้แก่ ประชาชน สื่อสารมวลชน รัฐ สถาบันการศึกษา และเป็นที่ชื่นชมและได้รับแนะนำแก่คนรอบข้าง เนื่องจาก ขาดการประชาสัมพันธ์หน่วยและการจัดทำโครงการเพื่อดึงให้ผู้รับบริการหลักได้เข้ามาใช้บริการในหน่วย เช่น การฝึกการยิงปืนขั้นพื้นฐาน การฝึกศิลปะต่อสู้ป้องกันตัว ฯ และการเผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของหน่วยยังไม่ได้จัดทำให้เป็นระบบ และกระจายช่องทางการประชาสัมพันธ์หน่วยให้แพร่กระจายออกไป รวมทั้งภารกิจในกรอบอำนาจและหน้าที่ ฯ ของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ นั้น ไม่ได้มีลักษณะงานที่ต้องสัมผัสกับประชาชนโดยตรง

********************************************************

 

สรุปผลการวิเคราะห์
วางแผนการปฏิบัติและแนวทางแก้ไข
มีดังนี้  

  • งานอำนวยการและธุรการ
    • จัดระบบงานธุรการให้เป็นระบบ รวดเร็ว มีระบบสืบหาข้อมูล
    • อบรมพัฒนา หรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน
    • ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับหน่วยงาน ภารกิจ ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ โดยพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ฯ และข่าวที่ไม่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชนส่วนใหญ่ หรือข่าวที่ก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิด
    • เปิดช่องทางรับข้อมูลการแจ้งเบาะแส เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทางอีเมลล์ ทางจดหมาย หรือทางโทรศัพท์ ฯ
    • รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ตรวจสอบ รายงานผล(ทั้ง ผู้บังคับบัญชา และประชาชนทราบ) และจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ
  • งานถวายความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ฯ
  • การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ถวายความปลอดภัย
  • ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์
    • ประชาชนที่ใช้รถหลงเข้ามาในเส้นทางเสด็จหรือกำลังจะออกมาเทียบขบวนเสด็จ
      • ใช้ยุทธวิธีการสกัดกั้น โดยคำนึงถึง
  • ความปลอดภัยของรถพระที่นั่งและรถในขบวนเสด็จ
  • ความปลอดภัยประชาชนที่หลงเข้ามาในเส้นทางเสด็จ
  • การใช้สัญญาณแจ้งเตือน สัญญาณเสียง ไมโครโฟน และท่าทางโดยความละมุนละม่อม แต่การปฏิบัติเป็นไปโดยปลอดภัย
    • ระหว่างการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ที่หมาย
      • การประชาสัมพันธ์การนั่ง การห้ามถ่ายรูป การแต่งกาย การอยู่ในที่จัดไว้สำหรับการรับเสด็จ การเดินตัดขบวน ฯ
      • ใช้วาจาที่สุภาพ และ เป็นที่เข้าใจของประชาชนเพราะประชาชนทุกคนต้องการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ก่อนแล้ว
  • งานเจรจาต่อรอง
    • การใช้หลักการเจรจาตามขั้นตอน
    • การใช้กิริยาวาจาที่สุภาพต่อประชาชนทั้งที่เกี่ยวข้องหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกจากที่เกิดเหตุ ในพื้นที่ที่จำกัดไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
    • การปฏิบัติต่อคนร้าย ตัวประกัน กลุ่มชุมนุมประท้วง หรือแกนนำ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม และมีความความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุหรือพฤติการณ์ต่าง ๆ ของคนร้าย
    • การประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ต่างหน่วย หรือองค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ ต่าง ๆ เป็นไปด้วยดี สร้างบรรยากาศการร่วมงานที่ดี
    • การปฏิบัติทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ใช้หลักจิตวิทยา และการทำงานที่เป็นขั้นตอนตามหลักการเจรจาต่อรอง
  • งานช่วยเหลือตัวประกัน การก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย คดีสำคัญ
  • ระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุ
    • การใช้เส้นทางโดยความเร่งด่วน มีการใช้สัญญาณไฟวับวาบ สัญญาณเสียงเตือน และไมโครโฟน แจ้งขอทาง โดยคำนึงถึงความปลอดภัย คำพูด และวิธีการปฏิบัติที่ละมุนละม่อม
  • ระหว่างการเข้าปฏิบัติการ เมื่อพบประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ให้ออกจากที่เกิดเหตุ
    • การวางแผนและการเข้าปฏิบัติการนอกจากคำนึงถึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันแล้วให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนใกล้ที่เกิดเหตุ เช่น วิถีกระสุน ขนาดกระสุนที่ใช้ยิง อาวุธที่ใช้
    • การปฏิบัติต่อตัวประกัน คนร้าย เป็นไปตามยุทธวิธี
    • การฟื้นฟูที่เกิดเหตุเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
  • งานควบคุมฝูงชน
    • การวางแผนการปฏิบัติในการควบคุมฝูงชนที่ดี
    • จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) โดยแบ่งแยกหน้าที่ให้ชัดเจน ผบ.เหตุการณ์คือใคร เจ้าหน้าที่ชุดเจรจารับฟังข้อเรียกร้องจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม
    • การประชาสัมพันธ์โดยการประกาศเกี่ยวกับการชุมนุมโดยสงบและที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
    • การประกาศแจ้งเกี่ยวกับขั้นระดับการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชนเพื่อให้ทุกฝ่ายทราบและเป็นที่เข้าใจ
    • การปฏิบัติการทางจิตวิทยา ไม่กดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่เกิดความเครียดและสร้างบรรยากาศการชุมประท้วงให้เป็นไปโดยสงบ
    • การอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น การจัดการจราจร การประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
    • การปฏิบัติขณะมีการชุมนุม และภายหลังมีการชุมนุม ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
      • ทั้งในยามปกติ และ การใช้กำลังในการสลายการชุมนุม
    • การฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนและประชาสัมพันธ์ให้ตัวแทนฝ่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้ได้รับรู้ถึงการปฏิบัติของกองร้อยควบคุมฝูงชนที่ปฏิบัติตามระดับการใช้กำลังที่เป็นไปตามกฎหมาย
    • การฝึกใช้อาวุธ โล่ กระบอง การยิงกระสุนแก๊สน้ำตา ที่ถูกต้องให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่
  • งานการฝึกยุทธวิธีตำรวจพิเศษ
    • วัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แก่หน่วย
    • จัดทำโครงการหรือแผนการฝึกให้การภาคเอกชนและประชาชน เกี่ยวกับการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น ธนาคาร ร้านค้าทอง ปั๊มน้ำมัน ฯ ประชาชนทั่วไป 
      • การยิงปืนขั้นพื้นฐาน กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
      • ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวสำหรับสุภาพสตรี และเยาวชน
      • การรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ บ้านพัก
    • จัดทำโครงการของบประมาณสร้างสนามยิงปืนทางยุทธวิธีให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนทั่วไป
    • จัดสถานที่สำหรับการฝึกและประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ภายในหน่วย
  • งานรักษาความปลอดภัยบุคคล สถานที่
    • เป็นการปฏิบัติกฎหมายคุ้มครองพยาน
    • การรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญระดับประเทศ ระดับชาติ เพื่อความเชื่อมั่นแก่หน่วยงาน และประเทศ
    • การรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายแก่หน่วยงานและที่ประชาชนต้องมาติดต่อใช้บริการ
    • เป็นการคุ้มครองพยานสำคัญ ผู้ต้องหาสำคัญ ให้สามารถดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมจนจบ
    • ในงานมหกรรมใหญ่ ๆ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท การทำร้ายชีวิตร่างกาย การประทุษร้ายต่อทรัพย์ ให้อยู่ในการควบคุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
    • การปฏิบัติต่าง ๆ เป็นไปด้วยความละมุนละม่อม และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน

                               
                                        ว่าที่   พ.ต.ต.                                                                            ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
                                                                                          ( สุริยะ  โพธิ์ทองนาค )
                                                       

  

สรุปผลการสำรวจจาก
แบบสอบถามความพึงพอใจ ไม่พึงพอใจ
ที่มีต่อ
กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2

เสนอ พ.ต.อ.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผกก.กก.ปพ.ศสส.ภ.2

ตัวชี้วัดที่ 3.1.22.3 : ระดับความสำเร็จของการสร้างความสัมพันธ์กับผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้เสียขององค์กร

คณะทำงาน
                1. ว่าที่ พ.ต.ต.สุริยะ โพธิ์ทองนาค         สว.กก.ปพ.ศสส.ภ.2           คณะทำงาน / ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัด
                2. ด.ต.บุญเยี่ยม          ศรีวิเศษ              ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2  คณะทำงาน
                3. ด.ต.เกียรติ               มูลมาตย์             ผบ.หมู่ กก.ปพ.ศสส.ภ.2      คณะทำงาน

ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา
            1. แบบสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่มีต่อ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
            2. แบบสำรวจภาพลักษณ์ ที่มีต่อ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
            3. กรอบภารกิจหน้าที่ตามพันธกิจ และ ผลผลิตของหน่วย

ผลการสำรวจความพึงพอใจและไม่พึงพอใจของผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
และผลการสำรวจภาพลักษณ์ของหน่วย

                1. จากแบบสำรวจความพึงพอใจและไม่พึงพอใจ
                                จากการสุ่มแบบสำรวจ กับ ผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 100 คน คะแนนเต็ม 60 คะแนน คิดคะแนนตามสัดส่วน เกณฑ์การคิดใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ สรุปผลได้ดังนี้
                                การคำนวณ ใช้การคำนวณ 20 คะแนน = 12 คะแนน ถ้าได้คะแนนจากแบบสำรวจเท่าใด ให้นำผลคะแนนที่ได้ คูณด้วยคะแนนเต็มหลักจากการคำนวณ แล้วหารด้วยคะแนนเต็มของแบบสำรวจในหัวข้อนั้นๆ
                                 1.1 ด้านตัวเจ้าหน้าที่ 20%
                                                - คะแนนเต็ม 12 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 20 คะแนน
                                                - สรุปคะแนน         ได้           12           คะแนน 
                                                - อยู่ในเกณฑ์ประทับใจ
                                1.2 ด้านความรู้ของเจ้าหน้าที่ 30%
                                    - คะแนนเต็ม 18 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 10 คะแนน
                                                - เงื่อนไข ความรู้เกี่ยวกับงานในหน้าที่และภารกิจของหน่วย
                                                - สรุปคะแนน         ได้           18        คะแนน                  
                                                - อยู่ในเกณฑ์ประทับใจ
                                1.3 ขั้นตอนการให้บริการ 30%
                                                - คะแนนเต็ม 18 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 15 คะแนน
                                                - เงื่อนไข การให้บริการเกี่ยวกับงานในหน้าที่และภารกิจของหน่วย
                                                - สรุปคะแนน         ได้           10.8       คะแนน  
                                                - อยู่ในเกณฑ์เฉย ๆ
                                1.4 บรรยากาศ สถานที่ และอุปกรณ์ (20%)
                                                - คะแนนเต็ม 12 คะแนน จากคะแนนเต็ม 60 คะแนน
                                                - คะแนนที่ใช้ประเมินเต็ม 15 คะแนน
                                                - สรุปคะแนน         ได้           7.2         คะแนน
                                                - อยู่ในเกณฑ์เฉยๆ

สรุป        ภาพรวมคะแนนผลการการสำรวจจากคะแนนเต็ม 60 คะแนน ได้ 48 คะแนน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ได้ 80%
            และวิเคราะห์ได้ดังนี้
                1. ด้านตัวเจ้าหน้าที่มีการแต่งกายที่เหมาะสมโดยเครื่องแบบของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ มีเครื่องแบบชุดฝึกกากีแกมเขียว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์แสดงออกได้ถึงการเป็นหน่วยกำลัง มีการปฏิบัติต่อผู้รับบริการอย่างดี (กรณีมีผู้มาติดต่อราชการ) และมีความกระตือรือร้นเอาใจใส่
                2. ด้านความรู้เกี่ยวกับภารกิจตามพันธกิจของหน่วย สามารถอธิบายให้ผู้รับบริการเข้าใจได้ดี และสามารถประชาสัมพันธ์ภารกิจของหน่วยได้ดีเมื่อมีข้อสงสัยและสอบถาม โดยที่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ มีภารกิจเฉพาะและเป็นกรณีพิเศษที่ไม่ได้สัมผัสต่อประชาชนโดยตรง โดยประชาชนส่วนใหญ่สงสัยและสอบถามถึงหน่วยและภารกิจเป็นประจำเมื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่และได้พบปะกับประชาชน
                3. ขั้นตอนการให้บริการต่อผู้รับบริการ ฯ ยังไม่ดีนักเนื่องจากภารกิจของหน่วยไม่ได้สัมผัสต่อประชาชนโดยตรง และการปฏิบัติงานจะเป็นไปในลักษณะของการปฏิบัติการพิเศษ ฯ ที่จะออกไปสนับสนุนการปฏิบัติในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเหตุวิกฤตเป็นกรณีไป เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การปิดล้อมๆจับคนร้ายคดีสำคัญ คนร้ายมีอาวุธปืนสงคราม เป็นต้น
                4. บรรยากาศ สถานที่ และอุปกรณ์ ยังไม่ดีนัก เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาอาคารสถานที่เพิ่มเติมยังขาดงบประมาณ ซึ่งต้องจัดทำโครงการของบประมาณในการจัดสร้างในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
           
           

            2. จากแบบสำรวจภาพลักษณ์
                                จากการสุ่มแบบสำรวจ กับ ผู้รับบริการหลักและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 100 คน เกณฑ์การคิดใช้ค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ สรุปผลได้ดังนี้
2.1 เจ้าหน้าที่มีอัธยาศัยไมตรีและความสุภาพ (Council Staff)
            ได้ระดับความพึงพอใจ           มาก         คิดเป็น    80%
2.2 สามารถให้บริการได้อย่างสำเร็จลุล่วง (Performance of Council)
            ได้ระดับความพึงพอใจ           มาก         คิดเป็น    80%
2.3 มีความน่าเชื่อถือ (Reliability)
            ได้ระดับความพึงพอใจ           มาก         คิดเป็น    80%
2.4 เป็นที่ยอมรับในทุกภาคส่วน (ประชาชน สื่อสารมวลชน รัฐ สถาบันศึกษา)
                ได้ระดับความพึงพอใจ           น้อย        คิดเป็น    80%
2.5 เป็นที่ชื่นชมและได้รับแนะนำแก่คนรอบข้าง
                ได้ระดับความพึงพอใจ           น้อย        คิดเป็น    80%

สรุปผลการวิเคราะห์จากแบบสำรวจภาพลักษณ์
                กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ฯ มีเจ้าหน้าที่ที่มีอัธยาศัยและความสุภาพ มีความสนใจในการให้บริการต่อผู้รับบริการ และมีความน่าเชื่อถือต่อผู้รับบริการที่ได้เข้ามาสัมผัสและการติดต่อประสานงาน แต่สาเหตุที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในทุกภาคส่วน ได้แก่ ประชาชน สื่อสารมวลชน รัฐ สถาบันการศึกษา และเป็นที่ชื่นชมและได้รับแนะนำแก่คนรอบข้าง เนื่องจาก ขาดการประชาสัมพันธ์หน่วยและการจัดทำโครงการเพื่อให้ผู้รับบริการหลักได้เข้ามาใช้บริการในหน่วย เช่น การฝึกการยิงปืนขั้นพื้นฐาน การฝึกศิลปะต่อสู้ป้องกันตัว ฯ และการเผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของหน่วยยังไม่ได้จัดทำให้เป็นระบบ และกระจายช่องทางการประชาสัมพันธ์หน่วยให้แพร่กระจายออกไป

                                        ว่าที่   พ.ต.ต.                                                                            ผู้รับผิดชอบ / เลขาธิการ
                                                                                          ( สุริยะ  โพธิ์ทองนาค )
                                                       

 TOP กลับไปสารบัญ

เอกสารการฝึกอบรมการสร้างความสัมพันธ์กับผู้รับบริการ (CRM)
และการให้บริการที่เป็นเลิศ

วัตถุประสงค์
                เพื่อทราบแนวทางและเทคนิคในการสร้างความสัมพันธ์ หรือ ความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ

CRMคืออะไร
Customer Relationship Management(CRM)
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดอยู่ที่การทำความเข้าใจว่า CRM คือ กระบวนการจัดการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งใหม่ ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เพิ่งจะได้รับการกล่าวถึงและนำมาใช้ในยุคนี้ เกือบทุกองค์กรจะนำ CRM เข้ามาใช้โดยอาจอยู่ภายในหนึ่งแผนกหรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นการเก็บประวัติการณ์ให้บริการลูกค้าของแผนกดูแลลูกค้าโดยการบันทึกความคิดเห็นของลูกค้าหรือข้อมูลที่ลูกค้าต้องการเพิ่มเติม
                สิ่งที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นานมานี้ คือ ผลกระทบ ของเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อกระบวนการบริหารลูกค้าที่เห็นได้ชัดเจนคือการใช้เทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมฐานข้อมูล ลูกค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (การจัดเก็บในคอมพิวเตอร์) หรือการนำศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ (Call Center) เข้ามาสนับสนุนการทำงาน ระบบที่มีความทันสมัยส่วนใหญ่ จะมีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าได้จำนวนมาก และจะเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อความสะดวกในการใช้งานขององค์กร ข้อมูลที่เก็บไว้สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ในโอกาสต่าง ๆ เช่น เมื่อลูกค้าติดต่อกับองค์กรในครั้งล่าสุดเมื่อใด , เป็นการติดต่อในเรื่องอะไร , มีการแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร และใครเป็นผู้รับผิดชอบดูแลลูกค้ารายนั้น
คุณสมบัติ ที่ดีที่สุดของ CRM คือ ความสามารถในการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และสามารถในการ ประเมินความต้องการของลูกค้าล่วงหน้าได้ เพื่อให้การ ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้สูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น การทำงานของ CRM ยังรวมถึงลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นอีกจุดหนึ่ง นั่นคือการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ในการรับข้อมูลที่ตัวเองสนใจ และทันต่อเหตุการณ์ เช่น ระบบ CRM สามารถแจ้งให้เจ้าของรถยนต์ทราบล่วงหน้าว่า รถของพวกเขาถึงเวลาอันสมควร ที่จะได้รับการตรวจเช็คจากศูนย์บริการ โดยระบบจะทราบถึงรายละเอียดของข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้ ในการติดต่อ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ จดหมายแจ้งลูกค้า จะถูกส่งไปตามที่อยู่ที่เก็บบันทึกไว้ใ